วัดภูเขาทองเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในทุ่งภูเขาทองนอกเกาะเมืองอยุธยาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตามตำนานในพระราชพงศวดารอยุธยา วัดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระราเมศวร กษัตริย์ราชวงศ์อู่ทอง ประมาณพุทธศักราช 1930 ในปี พ.ศ. 2112 ขณะที่พระเจ้าบุเรงนองยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา พระองค์ได้สั่งให้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองขนาดใหญ่แบบมอญเพื่อเป็นที่ระลึก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้โปรดให้ทำการบรรณะซ่อมแซมวัด และได้เปลี่ยนแปลงพระเจดีย์ตอนบนจากแบบมอญเป็นแบบไทยย่อมุมไม้สิบสิง ที่ด้านหน้าของภูเขาทองนั้น มีการประดิษฐานพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งได้รับการสร้างขึ้นโดยกรมศิลปกรในภายหลังเพื่อเป็นการเทิดทูนและระลึกถึงกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้
วัดภูเขาทอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนโคกสูง ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักสำหรับความงามทางสถาปัตยกรรมและความสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะในระหว่างการปะทะกองทัพอยุธยาและพม่า ในทั้งสองครั้งของการเสียกรุงอยุธยา วัดแห่งนี้ไม่เพียงมีบทบาทเป็นจุดยุทธศาสตร์ แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการขุดคลองมหานาค ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการคมนาคมระหว่างพระนครในแม่น้ำลพบุรีและวัดภูเขาทอง การขุดคลองมหานาคถือเป็นการสะท้อนถึงความฉลาดทางยุทธศาสตร์และความพยายามในการปกป้องและอนุรักษ์บริเวณนี้จากภัยคุกคามของกองทัพศัตรู
หลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดภูเขาทองกลายเป็นวัดร้างที่ถูกทอดทิ้ง อย่างไรก็ตาม พระมหาเจดีย์ของวัดซึ่งยังคงตั้งตระหง่านอยู่ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา มีผู้คนนับไม่ถ้วนเดินทางมากราบไหว้ โดยเฉพาะในยามที่ผลงานอันเลื่องชื่อเช่น นิราศภูเขาทอง ของสุนทรภู่กล่าวถึงการมานมัสการของเขาในรัชกาลที่ 3 ของกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 วัดภูเขาทองได้เห็นการกลับมาของพระสงฆ์ที่มาจำพรรษาที่นี่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการฟื้นฟูทางวัฒนธรรมและศาสนาที่สำคัญสำหรับชุมชนและผู้ศรัทธา
วัดภูเขาทองเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในทุ่งภูเขาทองนอกเกาะเมืองอยุธยาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตามตำนานในพระราชพงศวดารอยุธยา วัดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระราเมศวร กษัตริย์ราชวงศ์อู่ทอง ประมาณพุทธศักราช 1930 ในปี พ.ศ. 2112 ขณะที่พระเจ้าบุเรงนองยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา พระองค์ได้สั่งให้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองขนาดใหญ่แบบมอญเพื่อเป็นที่ระลึก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้โปรดให้ทำการบรรณะซ่อมแซมวัด และได้เปลี่ยนแปลงพระเจดีย์ตอนบนจากแบบมอญเป็นแบบไทยย่อมุมไม้สิบสิง ที่ด้านหน้าของภูเขาทองนั้น มีการประดิษฐานพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งได้รับการสร้างขึ้นโดยกรมศิลปกรในภายหลังเพื่อเป็นการเทิดทูนและระลึกถึงกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้
วัดภูเขาทอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนโคกสูง ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักสำหรับความงามทางสถาปัตยกรรมและความสำคัญทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะในระหว่างการปะทะกองทัพอยุธยาและพม่า ในทั้งสองครั้งของการเสียกรุงอยุธยา วัดแห่งนี้ไม่เพียงมีบทบาทเป็นจุดยุทธศาสตร์ แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการขุดคลองมหานาค ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการคมนาคมระหว่างพระนครในแม่น้ำลพบุรีและวัดภูเขาทอง การขุดคลองมหานาคถือเป็นการสะท้อนถึงความฉลาดทางยุทธศาสตร์และความพยายามในการปกป้องและอนุรักษ์บริเวณนี้จากภัยคุกคามของกองทัพศัตรู
หลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดภูเขาทองกลายเป็นวัดร้างที่ถูกทอดทิ้ง อย่างไรก็ตาม พระมหาเจดีย์ของวัดซึ่งยังคงตั้งตระหง่านอยู่ได้กลายเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา มีผู้คนนับไม่ถ้วนเดินทางมากราบไหว้ โดยเฉพาะในยามที่ผลงานอันเลื่องชื่อเช่น นิราศภูเขาทอง ของสุนทรภู่กล่าวถึงการมานมัสการของเขาในรัชกาลที่ 3 ของกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 วัดภูเขาทองได้เห็นการกลับมาของพระสงฆ์ที่มาจำพรรษาที่นี่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการฟื้นฟูทางวัฒนธรรมและศาสนาที่สำคัญสำหรับชุมชนและผู้ศรัทธา