วัดถ้ำเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่นด้วยธรรมชาติและความงดงามของดอยหลวงเชียงดาว
จุดสำคัญที่น่าสนใจของวัดถ้ำเชียงดาว คือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว อยู่ภายในวัด ภายในถ้ำก็จะมีสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ลักษณะรูปร่างต่างๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก นอกจากนี้หน้าถ้ำเชียงดาวยังมีแหล่งน้ำใสที่ไหลออกมาจากถ้ำมารวมกันเป็นสระน้ำ นักท่องเที่ยวที่มามักจะแวะถ่ายรูปอีกทั้งยังให้อาหารปลาน้อยใหญ่ที่ว่ายวนไปมาในสระน้ำอีกด้วย
ภายในจะมีไกด์ที่เป็นชาวบ้านนำทางเข้าไปภายในถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำมืด ที่ไม่ได้ติดตั้งไฟฟ้าเอาไว้ โดยไกด์จะใช้เพียงตะเกียงนำทางเท่านั้น เพื่อชมความงดงามภายในถ้ำทั้งหินงอกหินย้อย หรือ หินรูปทรงต่างๆ โดยภายในถ้ำที่นำทางจะมีห้องโถงใหญ่ๆ อยู่ 3 ห้อง โดยอัตราค่าบริการไกค์นำทางและค่าตะเกียงคือ 100 บาท/รอบ
ถ้ำหลวงเชียงดาวเป็นโบราณสถานที่ผู้คนมากมายเลื่อมใสศรัทธา มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาในเรื่องของ เจ้าหลวงคำแดง เป็นบุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้ทิ้งบ้านเมืองเพื่อออกตามหาหญิงสาวที่แปลงร่าง เป็นกวางทอง เพราะหลงรูปโฉมที่สวยงาม ซึ่งหายลับเข้าไปในถ้ำหลวงเชียงดาว เจ้าหลวงคำแดงจึงได้ตามเข้าไปในถ้ำเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้กลับออกมาอีกเลย หากแต่ไม่จุติใหม่เป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์อยู่ในภายถ้ำ และปกปักรักษาถ้ำหลวงเชียงดาว ต่อมาชาวบ้านได้ สร้างศาลถวายท่านและตั้งชื่อว่า "ศาลพ่อหลวงคำแดง"
นอกจากนี้ยังมีตำนานเรื่องเล่ากันต่อๆ มาอีกว่ามีฤาษี ชื่อว่า "พรหมฤาษี" เป็นผู้วิเศษด้วยฌานอันแก่กล้า ได้เรียกประชุมเทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ อสูร นาคราช เป็นต้น เพื่อมาเนรมิตสิ่งวิเศษต่างๆ เช่น พระพุทธรูปทองคำ ต้นโพธิ์ทองคำ ช้างวิเศษหรือ ช้างเอราวัณ ดาบวิเศษหรือดาบศรีกัญชัย อาหารทิพย์ ม้าวิเศษ เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่ส่วนลึกภายในถ้ำและได้รับ การดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากเทวดาผู้มีฤทธิ์ชื่อว่า "เจ้าหลวงคำแดง"
ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น รูปช้าง , รูปงู เป็นต้น
หลังจากออกจากถ้ำ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่จะไปชมถ้ำพระนอนด้านในซึ่งติดตั้งแสงไฟไว้ตามจุดต่างๆแล้วต่อไปได้ บางช่วงของทางเดินถ้ำพระนอนที่เป็นพื้นทรายรายล้อมด้วยหินงอกหินย้อยของถ้ำ
วัดถ้ำเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่นด้วยธรรมชาติและความงดงามของดอยหลวงเชียงดาว
จุดสำคัญที่น่าสนใจของวัดถ้ำเชียงดาว คือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว อยู่ภายในวัด ภายในถ้ำก็จะมีสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ลักษณะรูปร่างต่างๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก นอกจากนี้หน้าถ้ำเชียงดาวยังมีแหล่งน้ำใสที่ไหลออกมาจากถ้ำมารวมกันเป็นสระน้ำ นักท่องเที่ยวที่มามักจะแวะถ่ายรูปอีกทั้งยังให้อาหารปลาน้อยใหญ่ที่ว่ายวนไปมาในสระน้ำอีกด้วย
ภายในจะมีไกด์ที่เป็นชาวบ้านนำทางเข้าไปภายในถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำมืด ที่ไม่ได้ติดตั้งไฟฟ้าเอาไว้ โดยไกด์จะใช้เพียงตะเกียงนำทางเท่านั้น เพื่อชมความงดงามภายในถ้ำทั้งหินงอกหินย้อย หรือ หินรูปทรงต่างๆ โดยภายในถ้ำที่นำทางจะมีห้องโถงใหญ่ๆ อยู่ 3 ห้อง โดยอัตราค่าบริการไกค์นำทางและค่าตะเกียงคือ 100 บาท/รอบ
ถ้ำหลวงเชียงดาวเป็นโบราณสถานที่ผู้คนมากมายเลื่อมใสศรัทธา มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาในเรื่องของ เจ้าหลวงคำแดง เป็นบุตรชายของเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้ทิ้งบ้านเมืองเพื่อออกตามหาหญิงสาวที่แปลงร่าง เป็นกวางทอง เพราะหลงรูปโฉมที่สวยงาม ซึ่งหายลับเข้าไปในถ้ำหลวงเชียงดาว เจ้าหลวงคำแดงจึงได้ตามเข้าไปในถ้ำเช่นเดียวกัน โดยไม่ได้กลับออกมาอีกเลย หากแต่ไม่จุติใหม่เป็นเทวดาผู้มีฤทธิ์อยู่ในภายถ้ำ และปกปักรักษาถ้ำหลวงเชียงดาว ต่อมาชาวบ้านได้ สร้างศาลถวายท่านและตั้งชื่อว่า "ศาลพ่อหลวงคำแดง"
นอกจากนี้ยังมีตำนานเรื่องเล่ากันต่อๆ มาอีกว่ามีฤาษี ชื่อว่า "พรหมฤาษี" เป็นผู้วิเศษด้วยฌานอันแก่กล้า ได้เรียกประชุมเทวดา อินทร์ พรหม ยักษ์ อสูร นาคราช เป็นต้น เพื่อมาเนรมิตสิ่งวิเศษต่างๆ เช่น พระพุทธรูปทองคำ ต้นโพธิ์ทองคำ ช้างวิเศษหรือ ช้างเอราวัณ ดาบวิเศษหรือดาบศรีกัญชัย อาหารทิพย์ ม้าวิเศษ เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่ส่วนลึกภายในถ้ำและได้รับ การดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากเทวดาผู้มีฤทธิ์ชื่อว่า "เจ้าหลวงคำแดง"
ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยเป็นรูปทรงต่างๆ เช่น รูปช้าง , รูปงู เป็นต้น
หลังจากออกจากถ้ำ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่จะไปชมถ้ำพระนอนด้านในซึ่งติดตั้งแสงไฟไว้ตามจุดต่างๆแล้วต่อไปได้ บางช่วงของทางเดินถ้ำพระนอนที่เป็นพื้นทรายรายล้อมด้วยหินงอกหินย้อยของถ้ำ