วัดป่าดาราภิมย์ อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ที่ ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมล้านนา มีความร่มรื่นและสวยงาม ครั้งหนึ่งเคยเป็นป่าช้าติดพระตำหนักพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ได้รับพระบรมราชานุญาตยกฐานะให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ นับได้ว่าเป็นพระอารามหลวงแห่งที่ 7 ในจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ด้านหลังที่ว่าการอำเภอแม่ริม และค่ายดารารัศมี ชื่อของวัดนี้ถูกตั้งขึ้นตามพระนามของ "พระราชชายา เจ้าดารารัศมี" วัดป่าดาราภิรมย์ ได้ประกาศตั้งเป็นวัดวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2481 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2522 ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523
เริ่มจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตได้ออกจาริกธุดงค์มาทางภาคเหนือและได้พำนัก ณ ป่าช้าร้างติดกับสวนเจ้าสบาย พระตำหนักดาราภิรมย์ของ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสถานที่สงบ เป็นสปายะในการบำเพ็ญกรรมฐาน และมีพระสงฆ์ได้เข้ามาบำเพ็ญกรรมฐาน ณ ที่แห่งนี้ เมื่อชาวบ้านในละแวกเห็นแล้วได้เกิดศรัทธาจึงได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะต่างๆ ถวายเพื่อให้คณะสงฆ์ได้ใช้ในกิจการสงฆ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 เจ้าหญิงลดาคำ ณ เชียงใหม่ ทายาทของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ได้ถวายที่ดินดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานพระตำหนักเจ้าดารารัศมีให้แก่วัด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : th.wikipedia.org
วัดป่าดาราภิมย์ อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ที่ ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมล้านนา มีความร่มรื่นและสวยงาม ครั้งหนึ่งเคยเป็นป่าช้าติดพระตำหนักพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ได้รับพระบรมราชานุญาตยกฐานะให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ นับได้ว่าเป็นพระอารามหลวงแห่งที่ 7 ในจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ด้านหลังที่ว่าการอำเภอแม่ริม และค่ายดารารัศมี ชื่อของวัดนี้ถูกตั้งขึ้นตามพระนามของ "พระราชชายา เจ้าดารารัศมี" วัดป่าดาราภิรมย์ ได้ประกาศตั้งเป็นวัดวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2481 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2522 ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523
เริ่มจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตได้ออกจาริกธุดงค์มาทางภาคเหนือและได้พำนัก ณ ป่าช้าร้างติดกับสวนเจ้าสบาย พระตำหนักดาราภิรมย์ของ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสถานที่สงบ เป็นสปายะในการบำเพ็ญกรรมฐาน และมีพระสงฆ์ได้เข้ามาบำเพ็ญกรรมฐาน ณ ที่แห่งนี้ เมื่อชาวบ้านในละแวกเห็นแล้วได้เกิดศรัทธาจึงได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะต่างๆ ถวายเพื่อให้คณะสงฆ์ได้ใช้ในกิจการสงฆ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 เจ้าหญิงลดาคำ ณ เชียงใหม่ ทายาทของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ได้ถวายที่ดินดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานพระตำหนักเจ้าดารารัศมีให้แก่วัด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : th.wikipedia.org