อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อยู่ในพื้นที่ของอำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ และกิ่งอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารในเทือกเขาสูง ซึ่งมีน้ำตกที่สวยงามอยู่ประมาณ 4-5 แห่ง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้ยังมีแก่งหินที่ทำให้เกิดน้ำตกเล็กๆ ตามแก่งหินเหล่านี้ และมีหน้าผาที่สวยงามตามธรรมชาติ พื้นที่รวมกันประมาณ 558,750 ไร่ หรือ 894 ตารางกิโลเมตร
ส่วนใหญ่ของพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ธรรมชาติ เช่น น้ำตกแม่กระสาหรือแม่กี ซึ่งมีความสูงประมาณ 200 เมตร และหน้าผาต่างๆ พื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าต่างๆ ที่หลากหลายชนิด เหมาะที่จะเป็นอุทยานแห่งชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่นี้ได้รับการสำรวจและรายงานในหนังสือ กษ 0713/พิเศษ ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2526
หลักการตั้งอุทยานแห่งชาตินี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติในการประชุมครั้งที่ 1/2528 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2528 และได้รับการกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติจากพระราชกฤษฎีกา โดยบริเวณที่ดินที่รวมอยู่ในอุทยานแห่งชาตินี้คือ ป่าคลองขลุงและป่าคลองแม่วงก์ในท้องที่ตำบลปางตาไว อำเภอคลองขลุง (ในปัจจุบันเป็นอำเภอปางศิลาทอง) จังหวัดกำแพงเพชร และป่าแม่วงก์-แม่เปิน ในท้องที่ตำบลแม่เลย์ และตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ (ในปัจจุบันเป็นตำบลแม่เลย์ อำเภอแม่วงก์ และตำบลแม่เปิน กิ่งอำเภอแม่เปิน) อุทยานแห่งชาตินี้ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 104 ตอนที่ 183 ลงวันที่ 14 กันยายน 2530 และเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 55 ของประเทศไทย
เป็นเทือกเขาสูงซับซ้อนที่ลาดหลั่นลงมาสู่พื้นราบ มีปริมาณเทือกเขาประมาณ 40-50 ลูก ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ "ยอดเขาโมโกจู" ซึ่งมีความสูงประมาณ 1,964 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นอกจากนี้เป็นแหล่งต้นน้ำที่เกิดจากลำน้ำแม่วงก์ ส่วนพื้นที่ราบมีไม่มาก ส่วนใหญ่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ และเป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญ เช่น แร่ไมก้า
มีลักษณะดังนี้ ในช่วงฤดูหนาวที่เริ่มต้นจากเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเข้าชมอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากอากาศเย็นและหนาวค่อนข้างมาก ซึ่งเกิดจากลิ่มความกดอากาศสูงที่เข้ามาจากประเทศจีนและปกคลุมทั่วประเทศไทยทางภาคเหนือและภาคกลาง ลมที่พัดสู่ประเทศไทยในช่วงเวลานี้เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนช่วงฤดูร้อนเริ่มต้นจากเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อากาศร้อนจัดและมีปริมาณน้ำฝนน้อย ทำให้พืชป่าเต็งรังและพืชเบญจพรรณผลัดใบ สำหรับฤดูฝนเริ่มต้นจากเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 1,100 มิลลิเมตรต่อปี ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีพืชพรรณและสัตว์ป่าต่างๆ ดังนี้
1. ป่าเบญจพรรณ: พบอยู่บริเวณที่ราบริมฝั่งห้วยและภูเขาที่ไม่สูงมาก พันธุ์ไม้ที่พบได้รวมถึงสัก เสลา ชิงชัน กระบก กระพี้เขาควาย มะค่าโมง งิ้วป่า ประดู่ป่า กาสามปีก ติ้ว ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไผ่ชนิดต่างๆ เช่น ไผ่ป่า ไผ่ไร่ ไผ่ซางนวล ไผ่รวก พืชพื้นล่างเช่น หนามเค็ด ส้มเสี้ยว หนามคนฑา และอื่นๆ อีกมากมาย
2. ป่าเต็งรัง: พบอยู่บริเวณที่สลับกับป่าเบญจพรรณ พืชที่พบได้รวมถึงเต็ง รัง เหียง พลวง กราด มะเกิ้ม ประดู่ มะม่วงป่า มะค่าแต้ พะยอม มะขามป้อม สมอไทย ฯลฯ พืชพื้นล่างที่พบได้รวมถึงไผ่เพ็กและปรงอีกมากมาย
3. ป่าดิบเขา: พบอยู่ในบริเวณที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300-1,500 เมตร พืชที่พบได้รวมถึงก่อใบเลื่อม ก่อเดือย ก่อลิ้น ก่อแอบ ทะโล้ จำปาป่า กะเพราต้น หนอนขี้ควาย กำลังเสือโคร่ง ดำดง กล้วยฤาษี และมะนาวควาย เป็นต้น
4. ป่าดิบแล้ง: ป่าดิบแล้งประกอบด้วยยางแดง ยางนา กระบาก ตะเคียนหิน ปออีเก้ง สมพง กัดลิ้น มะหาด พลอง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไม้พุ่มและพืชพื้นล่างต่างๆ อีกมากมายเช่น เข็มขาว หนามคนฑา ว่าน พืชหัวต่างๆ รวมถึงกล้วยไม้ต่างๆ อีกมากมาย
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เนื่องจากติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร สัตว์ที่พบได้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์รวมถึงสมเสร็จ เลียงผา กระทิง ช้างป่า เสือโคร่ง เสือดาว หมีควาย หมีหมา ชะนีธรรมดา ค่างหงอก ลิงกัง อ้นเล็ก กระรอกบินเล็กแกมขาว ค้างคาวปากย่น ไก่ป่า เหยี่ยวรุ้ง นกแว่นสีเทา นกกก นกเงือกกรามช้าง นกปรอดเหลืองหัวจุก นกเขาใหญ่ นกกะเต็นอกขาว นกจาบคาเคราน้ำเงิน นกแซงแซวสีเทา เต่าหก เต่าเหลือง เหี้ย ตะกวด งูเห่า งูแมวเซา ฯลฯ
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อยู่ในพื้นที่ของอำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ และกิ่งอำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารในเทือกเขาสูง ซึ่งมีน้ำตกที่สวยงามอยู่ประมาณ 4-5 แห่ง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ที่สำคัญของจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้ยังมีแก่งหินที่ทำให้เกิดน้ำตกเล็กๆ ตามแก่งหินเหล่านี้ และมีหน้าผาที่สวยงามตามธรรมชาติ พื้นที่รวมกันประมาณ 558,750 ไร่ หรือ 894 ตารางกิโลเมตร
ส่วนใหญ่ของพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงซึ่งเป็นต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ธรรมชาติ เช่น น้ำตกแม่กระสาหรือแม่กี ซึ่งมีความสูงประมาณ 200 เมตร และหน้าผาต่างๆ พื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าต่างๆ ที่หลากหลายชนิด เหมาะที่จะเป็นอุทยานแห่งชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่นี้ได้รับการสำรวจและรายงานในหนังสือ กษ 0713/พิเศษ ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2526
หลักการตั้งอุทยานแห่งชาตินี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติในการประชุมครั้งที่ 1/2528 เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2528 และได้รับการกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติจากพระราชกฤษฎีกา โดยบริเวณที่ดินที่รวมอยู่ในอุทยานแห่งชาตินี้คือ ป่าคลองขลุงและป่าคลองแม่วงก์ในท้องที่ตำบลปางตาไว อำเภอคลองขลุง (ในปัจจุบันเป็นอำเภอปางศิลาทอง) จังหวัดกำแพงเพชร และป่าแม่วงก์-แม่เปิน ในท้องที่ตำบลแม่เลย์ และตำบลห้วยน้ำหอม อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ (ในปัจจุบันเป็นตำบลแม่เลย์ อำเภอแม่วงก์ และตำบลแม่เปิน กิ่งอำเภอแม่เปิน) อุทยานแห่งชาตินี้ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 104 ตอนที่ 183 ลงวันที่ 14 กันยายน 2530 และเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 55 ของประเทศไทย
เป็นเทือกเขาสูงซับซ้อนที่ลาดหลั่นลงมาสู่พื้นราบ มีปริมาณเทือกเขาประมาณ 40-50 ลูก ยอดเขาที่สูงที่สุดคือ "ยอดเขาโมโกจู" ซึ่งมีความสูงประมาณ 1,964 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นอกจากนี้เป็นแหล่งต้นน้ำที่เกิดจากลำน้ำแม่วงก์ ส่วนพื้นที่ราบมีไม่มาก ส่วนใหญ่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ และเป็นแหล่งแร่ธาตุสำคัญ เช่น แร่ไมก้า
มีลักษณะดังนี้ ในช่วงฤดูหนาวที่เริ่มต้นจากเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเข้าชมอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากอากาศเย็นและหนาวค่อนข้างมาก ซึ่งเกิดจากลิ่มความกดอากาศสูงที่เข้ามาจากประเทศจีนและปกคลุมทั่วประเทศไทยทางภาคเหนือและภาคกลาง ลมที่พัดสู่ประเทศไทยในช่วงเวลานี้เป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนช่วงฤดูร้อนเริ่มต้นจากเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม อากาศร้อนจัดและมีปริมาณน้ำฝนน้อย ทำให้พืชป่าเต็งรังและพืชเบญจพรรณผลัดใบ สำหรับฤดูฝนเริ่มต้นจากเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 1,100 มิลลิเมตรต่อปี ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีพืชพรรณและสัตว์ป่าต่างๆ ดังนี้
1. ป่าเบญจพรรณ: พบอยู่บริเวณที่ราบริมฝั่งห้วยและภูเขาที่ไม่สูงมาก พันธุ์ไม้ที่พบได้รวมถึงสัก เสลา ชิงชัน กระบก กระพี้เขาควาย มะค่าโมง งิ้วป่า ประดู่ป่า กาสามปีก ติ้ว ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไผ่ชนิดต่างๆ เช่น ไผ่ป่า ไผ่ไร่ ไผ่ซางนวล ไผ่รวก พืชพื้นล่างเช่น หนามเค็ด ส้มเสี้ยว หนามคนฑา และอื่นๆ อีกมากมาย
2. ป่าเต็งรัง: พบอยู่บริเวณที่สลับกับป่าเบญจพรรณ พืชที่พบได้รวมถึงเต็ง รัง เหียง พลวง กราด มะเกิ้ม ประดู่ มะม่วงป่า มะค่าแต้ พะยอม มะขามป้อม สมอไทย ฯลฯ พืชพื้นล่างที่พบได้รวมถึงไผ่เพ็กและปรงอีกมากมาย
3. ป่าดิบเขา: พบอยู่ในบริเวณที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300-1,500 เมตร พืชที่พบได้รวมถึงก่อใบเลื่อม ก่อเดือย ก่อลิ้น ก่อแอบ ทะโล้ จำปาป่า กะเพราต้น หนอนขี้ควาย กำลังเสือโคร่ง ดำดง กล้วยฤาษี และมะนาวควาย เป็นต้น
4. ป่าดิบแล้ง: ป่าดิบแล้งประกอบด้วยยางแดง ยางนา กระบาก ตะเคียนหิน ปออีเก้ง สมพง กัดลิ้น มะหาด พลอง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไม้พุ่มและพืชพื้นล่างต่างๆ อีกมากมายเช่น เข็มขาว หนามคนฑา ว่าน พืชหัวต่างๆ รวมถึงกล้วยไม้ต่างๆ อีกมากมาย
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เนื่องจากติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร สัตว์ที่พบได้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์รวมถึงสมเสร็จ เลียงผา กระทิง ช้างป่า เสือโคร่ง เสือดาว หมีควาย หมีหมา ชะนีธรรมดา ค่างหงอก ลิงกัง อ้นเล็ก กระรอกบินเล็กแกมขาว ค้างคาวปากย่น ไก่ป่า เหยี่ยวรุ้ง นกแว่นสีเทา นกกก นกเงือกกรามช้าง นกปรอดเหลืองหัวจุก นกเขาใหญ่ นกกะเต็นอกขาว นกจาบคาเคราน้ำเงิน นกแซงแซวสีเทา เต่าหก เต่าเหลือง เหี้ย ตะกวด งูเห่า งูแมวเซา ฯลฯ