วัดบางแคใหญ่ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 2 (ประมาณปี พ.ศ. 2357) โดยเจ้าพระยาวงศาสุรศักดิ์ (แสง วงศาโรจน์) สมุหพระกลาโหม วัดนี้อยู่ในบริเวณที่มีน้ำโอบล้อม โดยมีคลองบางแคผ่านทางทิศตะวันออก คลองเมรุทางทิศเหนือ และคลองบางลี่
วัดบางแคใหญ่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตัววัดและสถาปัตยกรรมภายในยังคงรักษาลักษณะเดิมไว้ ทั้งนี้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่พบในวัด ทำให้วัดบางแคใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และโบราณคดี
นอกจากนี้ วัดบางแคใหญ่ยังเป็นศูนย์รวมของชุมชนและเป็นสถานที่สำคัญในการจัดงานประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงการทำบุญ การจัดงานเทศกาลต่างๆ และเป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมทางสังคมของชุมชนในพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ วัดบางแคใหญ่จึงมีความสำคัญไม่เพียงแต่ในด้านศาสนาและประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นศูนย์กลางของชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย
ภายในวัดบางแคใหญ่มีพระพุทธรูปหินทรายแดง เรียงรายรอบระเบียง นิ้วพระหัตถ์กางแบบปาละ หน้าพระเป็นรูปไข่แบบอู่ทองหน้านาง เป็นประติมากรรมสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา อาจนำมาจากที่อื่นหรือเป็นของเก่าแก่ดั้งเดิมของวัด อย่างใดอย่างหนึ่งล่วงมาในสมัยอยุธยา หรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีการเอาปูนมาปั้นพอกพระศิลาทรายแดงไว้ บางองค์ก็ทำทรงเครื่อง
นอกจากนี้ วัดบางแคใหญ่ยังมีใบเสมาหินทรายแดงรอบอุโบสถ เป็นแบบเดียวกับวัดหลวงพ่อวัดบ้านแหลม และวัดโบราณสมัยอยุธยาตอนปลายในเขตจังหวัดสมุทรสงครามโดยทั่วไป บ่งบอกถึงการปฏิสังขรณ์ให้เป็นวัดขึ้นมาใหม่สมัยอยุธยาตอนปลาย การตกแต่งและสถาปัตยกรรมของวัดนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความงดงามของศิลปะไทยในยุคสมัยนั้น แต่ยังเป็นหลักฐานที่สำคัญของการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาและวัฒนธรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น การศึกษาและการค้นคว้าเกี่ยวกับวัดนี้จึงมีความสำคัญไม่เพียงแค่ในด้านศาสนา แต่ยังรวมถึงด้านประวัติศาสตร์และศิลปะอีกด้วย
วัดบางแคใหญ่ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 2 (ประมาณปี พ.ศ. 2357) โดยเจ้าพระยาวงศาสุรศักดิ์ (แสง วงศาโรจน์) สมุหพระกลาโหม วัดนี้อยู่ในบริเวณที่มีน้ำโอบล้อม โดยมีคลองบางแคผ่านทางทิศตะวันออก คลองเมรุทางทิศเหนือ และคลองบางลี่
วัดบางแคใหญ่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตัววัดและสถาปัตยกรรมภายในยังคงรักษาลักษณะเดิมไว้ ทั้งนี้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่พบในวัด ทำให้วัดบางแคใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และโบราณคดี
นอกจากนี้ วัดบางแคใหญ่ยังเป็นศูนย์รวมของชุมชนและเป็นสถานที่สำคัญในการจัดงานประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงการทำบุญ การจัดงานเทศกาลต่างๆ และเป็นจุดศูนย์รวมกิจกรรมทางสังคมของชุมชนในพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ วัดบางแคใหญ่จึงมีความสำคัญไม่เพียงแต่ในด้านศาสนาและประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นศูนย์กลางของชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย
ภายในวัดบางแคใหญ่มีพระพุทธรูปหินทรายแดง เรียงรายรอบระเบียง นิ้วพระหัตถ์กางแบบปาละ หน้าพระเป็นรูปไข่แบบอู่ทองหน้านาง เป็นประติมากรรมสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา อาจนำมาจากที่อื่นหรือเป็นของเก่าแก่ดั้งเดิมของวัด อย่างใดอย่างหนึ่งล่วงมาในสมัยอยุธยา หรือรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีการเอาปูนมาปั้นพอกพระศิลาทรายแดงไว้ บางองค์ก็ทำทรงเครื่อง
นอกจากนี้ วัดบางแคใหญ่ยังมีใบเสมาหินทรายแดงรอบอุโบสถ เป็นแบบเดียวกับวัดหลวงพ่อวัดบ้านแหลม และวัดโบราณสมัยอยุธยาตอนปลายในเขตจังหวัดสมุทรสงครามโดยทั่วไป บ่งบอกถึงการปฏิสังขรณ์ให้เป็นวัดขึ้นมาใหม่สมัยอยุธยาตอนปลาย การตกแต่งและสถาปัตยกรรมของวัดนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความงดงามของศิลปะไทยในยุคสมัยนั้น แต่ยังเป็นหลักฐานที่สำคัญของการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาและวัฒนธรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น การศึกษาและการค้นคว้าเกี่ยวกับวัดนี้จึงมีความสำคัญไม่เพียงแค่ในด้านศาสนา แต่ยังรวมถึงด้านประวัติศาสตร์และศิลปะอีกด้วย