วัดปากลำขาแข้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อโบสถ์แสตนเลส ตั้งอยู่ที่ บ้านปากลำ หมู่ที่ 1 ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และเป็นหนึ่งในสถานที่ประจำใจของประชาชนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2484 โดยมีพระพุทธรูปแสตนเลสที่ฉลุลายไทยวิจิตรอย่างงดงาม เป็นจุดเด่นที่สะดุดตา สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาของประชาชนที่มีใจกว้างในการบริจาคเงินทองและแรงงาน ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงเจริญพระชนม์พรรษาครบ 80 พรรษา
วัดปากลำขาแข้งไม่เพียงแต่เป็นวัดที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ เหมือนกับวัดในท้องถิ่นอื่น ๆ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ท่านต้องนั่งเรือหางยาวจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อไปชมความงดงามของโบสถ์แห่งนี้ โบสถ์ตั้งอยู่เกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ทำให้ทัศนียภาพรอบๆ เป็นไปในรูปแบบที่สง่างามและเป็นธรรมชาติ
ข้อน่าสนใจอีกหนึ่งข้อคือวัดปากลำขาแข้งเป็นสัญลักษณ์ของเชื่อมโยงอารยธรรมและศรัทธา ด้วยการใช้วัสดุแสตนเลสในการสร้างโบสถ์ ทำให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมไทยและการใช้วัสดุที่ทันสมัย
รวมถึงนั้น วัดปากลำขาแข้งยังเป็นสถานที่ที่ร่วมกันสร้างสรรค์อย่างมีความหมาย ให้กับชุมชน และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าทึ่งสำหรับผู้ที่เดินทางมาเยือน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยเรือหางยาวเข้าไปในเขื่อน หรือเป็นการยืนอยู่บนฝั่งเขื่อนศรีนครินทร์ แล้วหันมองไปยังวัดที่อยู่เกาะกลางน้ำ ทั้งหมดนี้ทำให้วัดปากลำขาแข้งเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
วัดปากลำขาแข้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อโบสถ์แสตนเลส ตั้งอยู่ที่ บ้านปากลำ หมู่ที่ 1 ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และเป็นหนึ่งในสถานที่ประจำใจของประชาชนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2484 โดยมีพระพุทธรูปแสตนเลสที่ฉลุลายไทยวิจิตรอย่างงดงาม เป็นจุดเด่นที่สะดุดตา สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาของประชาชนที่มีใจกว้างในการบริจาคเงินทองและแรงงาน ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงเจริญพระชนม์พรรษาครบ 80 พรรษา
วัดปากลำขาแข้งไม่เพียงแต่เป็นวัดที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ เหมือนกับวัดในท้องถิ่นอื่น ๆ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ท่านต้องนั่งเรือหางยาวจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อไปชมความงดงามของโบสถ์แห่งนี้ โบสถ์ตั้งอยู่เกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ทำให้ทัศนียภาพรอบๆ เป็นไปในรูปแบบที่สง่างามและเป็นธรรมชาติ
ข้อน่าสนใจอีกหนึ่งข้อคือวัดปากลำขาแข้งเป็นสัญลักษณ์ของเชื่อมโยงอารยธรรมและศรัทธา ด้วยการใช้วัสดุแสตนเลสในการสร้างโบสถ์ ทำให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างศิลปวัฒนธรรมไทยและการใช้วัสดุที่ทันสมัย
รวมถึงนั้น วัดปากลำขาแข้งยังเป็นสถานที่ที่ร่วมกันสร้างสรรค์อย่างมีความหมาย ให้กับชุมชน และเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าทึ่งสำหรับผู้ที่เดินทางมาเยือน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยเรือหางยาวเข้าไปในเขื่อน หรือเป็นการยืนอยู่บนฝั่งเขื่อนศรีนครินทร์ แล้วหันมองไปยังวัดที่อยู่เกาะกลางน้ำ ทั้งหมดนี้ทำให้วัดปากลำขาแข้งเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของประเทศไทย