วัดโนนกุ่ม เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งหากคุณได้ยินชื่อ "วัดหลวงพ่อโต" หรือ "วัดสรพงษ์" ก็ย่อมหมายถึงวัดนี้เอง สถานที่ของวัดตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ ซึ่งในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว นั้นเป็นที่ตั้งของวัดโนนกุ่มด้วย
ที่เด่นของวัดนี้ และที่ทำให้คนเป็นที่รู้จัก คือรูปปลูกของหล่อทองเหลืองรมดำของ "หลวงพ่อโต" หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" ซึ่งเป็นรูปหล่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ได้รับการยกย่องและความนับถือจากผู้คนทั่วไป การที่วัดโนนกุ่มมีการบูรณะและเกิดขึ้นมานั้น มาจากความมุ่งมั่นและความปรารถนาของ "คุณสรพงษ์ ชาตรี" ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้ริเริ่มการสร้างวัดเนี่ยนั้นเอง ดังนั้น วัดโนนกุ่มไม่เพียงแต่เป็นที่ประดิษฐ์ทางศาสนาแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความศรัทธาและความมั่นใจของผู้คนในพื้นที่นั้น และสะท้อนความเป็นมาของศาสนาพุทธในท้องถิ่น
ภายในพื้นที่ของวัดนี้ ไม่เพียงแต่จะพบกับสิ่งก่อสร้างที่ถูกประดับยิ่งงามอย่างละเอียดยิบ ที่ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น สงบสะอาด แต่ยังมีโรงอาหารหรือที่เรียกว่าโรงทาน ที่เป็นที่รวมกันสำหรับพระภิกษุและชาวบ้านเมื่อต้องการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ในวัดยังมีการตั้งแท่นของบริจาคเพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมหรือนิสิตสามารถบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของวัดได้ตามความศรัทธา และเมื่อเรามองไปยังบริเวณโดยรอบ จะเห็นถึงอุทยานสวนและหย่อมสวนต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว ทำให้บรรยากาศดูสวยงาม และมีความร่มรื่น อากาศเย็นสบาย ที่น่าจะทำให้ผู้มาเยี่ยมชมรู้สึกผ่อนคลายและสุขสบายใจ
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์โต โทร. 081-6401281, 081-9110622
พระอุโบสถสีทองของวัดปากน้ำโจ้โล้ เป็นสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ในอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่นี่เป็นมากกว่าแค่สถานที่ทางศาสนา แต่ยังเป็นผลงานศิลปะที่น่าชื่นชม พระอุโบสถทาสีทองทั้งหลัง ทั้งด้านในและด้านนอก สะท้อนถึงความสวยงามและความเลิศล้ำในการออกแบบและการสร้าง สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสำนักสงฆ์ก่อนที่จะถูกปรับปรุงให้เป็นพระอุโบสถอันงดงามในปัจจุบัน นอกจากนี้ หน้าวัดยังมีคลองที่ไหลผ่านไปยังแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเพิ่มความงามให้กับวัดแห่งนี้ในมิติทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอีกด้วย การเยี่ยมชมพระอุโบสถสีทองวัดปากน้ำโจ้โล้จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในด้านของศิลปะ ศาสนา และธรรมชาติ ที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาดในการสัมผัสความงามและความสงบของสถานที่นี้
เจดีย์ที่มีอายุประมาณ 200 ปี ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ณ ที่ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของทัพพม่า ทัพพม่าที่นี่ประกอบด้วยทัพบกและทัพเรือ แต่ได้ถูกทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปราบปรามจนพ่ายแพ้ หลังจากนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงมีพระราชดำริให้สร้างเจดีย์ขึ้นที่นี่เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ และการปกป้องอิสรภาพของประเทศไทย ปัจจุบัน เจดีย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช