สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง คือโครงการที่ได้รับการสร้างขึ้นจากความเทิดทูนในสิ่งที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชดำริมา มีจุดประสงค์เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรให้กับประชาชน และเป็นวิธีในการแทนที่การปลูกพืชฝิ่น ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับสังคม. สถานีวิจัยนี้เป็นสถานีแรกในโครงการหลวง ตั้งอยู่ที่ยอดเขาของแดนลาว ในตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,400 เมตร โดยยอดเขาสูงสุดในบริเวณนี้เป็น 1,928 เมตร
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มีพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่ที่ประมาณ 26.52 ตารางกิโลเมตร หรือในการคำนวณเป็นไร่จะเท่ากับ 16,577 ไร่ โครงการนี้ได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่บอกว่า “ให้เขาช่วยตัวเอง” และมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นไร่ฝิ่นมาก่อนนั้นเปลี่ยนเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นได้ดีกว่าในอดีต
1.มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาในเรื่องของไม้ผลที่พบในเขตภูมิอากาศหนาว นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นในการขยายพันธุ์และการสรรหาพืชชนิดต่างๆ เพื่อการค้าและเพื่อการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของพืชที่เรามีอยู่
2.งานเผยแพร่และการฝึกอบรมของเราเป็นแหล่งข้อมูลทางวิชาการในการปลูกพืชบนที่สูงที่สำคัญ ซึ่งให้บริการเป็นสถานที่ฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่และเกษตรกรที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ การเผยแพร่และการฝึกสอนนี้ส่งผลให้เกษตรกรมีความรู้และความสามารถในการปรับปรุงและพัฒนาการทำเกษตรของตนเอง
3.การพัฒนาและการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรนั้นเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของเรา ที่รวมถึงการทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการทั้งหมดเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการทำเกษตรที่ยั่งยืนในพื้นที่รอบๆ สถานี กิจกรรมที่สำคัญของเรามีการพัฒนาแหล่งน้ำ, การวางแผนในการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ, การส่งเสริมการปลูกพืชที่เหมาะสมกับพื้นที่เช่น ไม้ผล, ผัก, ชา, การฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับมาสู่สภาพที่ปกติ, การฟื้นฟูสภาพธรรมชาติที่ถูกทำลาย, และการส่งเสริมการปลูกป่าชาวบ้านเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมท้องถิ่น
สำหรับการเดินทางไปยังดอยอ่างขาง, มีทั้งหมด 3 เส้นทางที่สามารถเลือกใช้ แต่ในทางปฏิบัติ, มีเพียงหนึ่งเส้นทางที่ถือเป็นเส้นทางหลัก นั่นคือการขึ้นไปยังดอยอ่างขางจากกิโลเมตรที่ 137 ที่ตั้งอยู่ที่วัดหาดสำราญ หากคุณเลือกการเดินทางด้วยรถยนต คุณสามารถเลือกใช้สามเส้นทางต่อไปนี้
1.เส้นทางที่ขึ้นดอยอ่างขางที่วัดหาดสำราญ (กิโลเมตรที่ 137) คุณสามารถขับรถเที่ยวทางเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) จนถึงจุดที่สามารถขึ้นไปยังดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นทางลาดชันที่มีทางโค้งและมีความสูงขั้น
2.เส้นทางขึ้นดอยอ่างขางที่อำเภอเชียงดาว (กิโลเมตรที่ 79) จากตัวเมืองเชียงใหม่ คุณสามารถขับรถเที่ยวทางเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) จนถึงอำเภอเชียงดาว ที่หลักกิโลเมตรที่ 79, คุณจะพบทางแยก (เส้นทางหมายเลข 1) ที่คุณต้องเลี้ยวซ้ายผ่านตำบลเมืองงาย บ้านอรุโณทัย และบ้านหลวง เส้นทางนี้ค่อนข้างแคบแต่ไม่มีความลาดชัน
3.เส้นทางจากอำเภอฝางไปยังหมู่บ้านนอแล อย่างไรก็ตาม มันเป็นเส้นทางที่มีระยะทางสั้นที่สุดแต่มีความลาดชันที่สูงและถนนไม่ค่อยดี เป็นเส้นทางที่ติดกับชายแดนระหว่างไทยและพม่า ซึ่งมีด่านทหารตามทางและคุณจะสามารถเห็นทั้งค่ายทหารไทยและพม่าที่ตั้งอยู่ริมภูเขา ไม่แนะนำให้ใช้เส้นทางนี้เว้นแต่จำเป็น
อ่างขาง เป็นสถานที่ที่มีการจัดสรรที่พักที่สะดวกสบายให้บริการกับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งยังมีพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบการปั่นนอนแห่งนี้สามารถมากางเต็นท์หรือตั้งค่ายในบริเวณนี้ได้ ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อความติดต่อกับธรรมชาติเป็นไปอย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่น่าจำจำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน.
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง คือโครงการที่ได้รับการสร้างขึ้นจากความเทิดทูนในสิ่งที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชดำริมา มีจุดประสงค์เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรให้กับประชาชน และเป็นวิธีในการแทนที่การปลูกพืชฝิ่น ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับสังคม. สถานีวิจัยนี้เป็นสถานีแรกในโครงการหลวง ตั้งอยู่ที่ยอดเขาของแดนลาว ในตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,400 เมตร โดยยอดเขาสูงสุดในบริเวณนี้เป็น 1,928 เมตร
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง มีพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่ที่ประมาณ 26.52 ตารางกิโลเมตร หรือในการคำนวณเป็นไร่จะเท่ากับ 16,577 ไร่ โครงการนี้ได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่บอกว่า “ให้เขาช่วยตัวเอง” และมีวัตถุประสงค์ที่จะทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นไร่ฝิ่นมาก่อนนั้นเปลี่ยนเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นได้ดีกว่าในอดีต
1.มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาในเรื่องของไม้ผลที่พบในเขตภูมิอากาศหนาว นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นในการขยายพันธุ์และการสรรหาพืชชนิดต่างๆ เพื่อการค้าและเพื่อการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของพืชที่เรามีอยู่
2.งานเผยแพร่และการฝึกอบรมของเราเป็นแหล่งข้อมูลทางวิชาการในการปลูกพืชบนที่สูงที่สำคัญ ซึ่งให้บริการเป็นสถานที่ฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่และเกษตรกรที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ การเผยแพร่และการฝึกสอนนี้ส่งผลให้เกษตรกรมีความรู้และความสามารถในการปรับปรุงและพัฒนาการทำเกษตรของตนเอง
3.การพัฒนาและการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรนั้นเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของเรา ที่รวมถึงการทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการทั้งหมดเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการทำเกษตรที่ยั่งยืนในพื้นที่รอบๆ สถานี กิจกรรมที่สำคัญของเรามีการพัฒนาแหล่งน้ำ, การวางแผนในการใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ, การส่งเสริมการปลูกพืชที่เหมาะสมกับพื้นที่เช่น ไม้ผล, ผัก, ชา, การฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับมาสู่สภาพที่ปกติ, การฟื้นฟูสภาพธรรมชาติที่ถูกทำลาย, และการส่งเสริมการปลูกป่าชาวบ้านเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมท้องถิ่น
สำหรับการเดินทางไปยังดอยอ่างขาง, มีทั้งหมด 3 เส้นทางที่สามารถเลือกใช้ แต่ในทางปฏิบัติ, มีเพียงหนึ่งเส้นทางที่ถือเป็นเส้นทางหลัก นั่นคือการขึ้นไปยังดอยอ่างขางจากกิโลเมตรที่ 137 ที่ตั้งอยู่ที่วัดหาดสำราญ หากคุณเลือกการเดินทางด้วยรถยนต คุณสามารถเลือกใช้สามเส้นทางต่อไปนี้
1.เส้นทางที่ขึ้นดอยอ่างขางที่วัดหาดสำราญ (กิโลเมตรที่ 137) คุณสามารถขับรถเที่ยวทางเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) จนถึงจุดที่สามารถขึ้นไปยังดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นทางลาดชันที่มีทางโค้งและมีความสูงขั้น
2.เส้นทางขึ้นดอยอ่างขางที่อำเภอเชียงดาว (กิโลเมตรที่ 79) จากตัวเมืองเชียงใหม่ คุณสามารถขับรถเที่ยวทางเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) จนถึงอำเภอเชียงดาว ที่หลักกิโลเมตรที่ 79, คุณจะพบทางแยก (เส้นทางหมายเลข 1) ที่คุณต้องเลี้ยวซ้ายผ่านตำบลเมืองงาย บ้านอรุโณทัย และบ้านหลวง เส้นทางนี้ค่อนข้างแคบแต่ไม่มีความลาดชัน
3.เส้นทางจากอำเภอฝางไปยังหมู่บ้านนอแล อย่างไรก็ตาม มันเป็นเส้นทางที่มีระยะทางสั้นที่สุดแต่มีความลาดชันที่สูงและถนนไม่ค่อยดี เป็นเส้นทางที่ติดกับชายแดนระหว่างไทยและพม่า ซึ่งมีด่านทหารตามทางและคุณจะสามารถเห็นทั้งค่ายทหารไทยและพม่าที่ตั้งอยู่ริมภูเขา ไม่แนะนำให้ใช้เส้นทางนี้เว้นแต่จำเป็น
อ่างขาง เป็นสถานที่ที่มีการจัดสรรที่พักที่สะดวกสบายให้บริการกับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งยังมีพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบการปั่นนอนแห่งนี้สามารถมากางเต็นท์หรือตั้งค่ายในบริเวณนี้ได้ ทำให้ความรู้สึกที่มีต่อความติดต่อกับธรรมชาติเป็นไปอย่างเต็มที่ ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่น่าจำจำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน.