ทุ่งโปรงทองไม่ใช่แค่แหล่งท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่ซ่อนความสวยงามและความลับของธรรมชาติภายในตัวเองอยู่ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำประแส ทุ่งโปรงทองถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่สามารถสะท้อนถึงความรู้และความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลนได้อย่างชัดเจน
เมื่อเดินทางเข้าสู่บริเวณนี้ นักท่องเที่ยวจะพบกับความสวยงามของป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่งที่ปกคลุมเป็นทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้ทุ่งโปรงทองโดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางคือต้นโปรงที่ขึ้นอย่างหนาแน่นทั่วพื้นที่ ทำให้เกิดสีเขียวอ่อนที่สะท้อนตาของผู้ที่มาเยี่ยมชม เมื่อแสงแดดส่องลงบนต้นโปรงสีทองของต้นโปรงก็จะปรากฏขึ้น จึงทำให้บริเวณนี้ได้รับชื่อว่า "ทุ่งโปรงทอง"
ทุ่งโปรงทองไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางชีวภาพและการเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริง
ทุ่งโปรงทองไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกเพื่อความสวยงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและการฟื้นฟูที่ดีของชุมชนบ้านแสมภู่ ในหมู่ 7 ปากน้ำประแส, อำเภอแกลง อันกว้างขวางกว่า 6,000 ไร่นั้น, ทุ่งโปรงทองเดิมๆ เคยเป็นแหล่งทำการประมง, เลี้ยงกุ้ง, ทำการเกษตร, และทำสวนผลไม้ของชาวบ้านหลายๆ คน แต่กลับเศร้าใจเมื่อมองเห็นสภาพการถูกทำลายของทรัพยากรธรรมชาติ และความสืบโทรมของสิ่งแวดล้อมป่าชายเลนที่หายไปอย่างรวดเร็ว
ในปีพ.ศ. 2544 ชาวบ้านจึงได้ร่วมมือกัน ด้วยศักดิ์ศรีและความรักในทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ที่ถือว่าเป็น "ทุ่งโปรงทอง" ของพวกเขา เพื่อร่วมมืออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนภายใต้นั้น ก้าวไปยังปีพ.ศ. 2552 องค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่นี้ และได้นำงบประมาณมาใช้ในการพัฒนาทุ่งโปรงทอง และพื้นที่ปากน้ำประแส ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่น่าชื่นชม นอกจากนี้ ยังมีการสร้างสะพานเดินชมธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งช่วยให้ผู้มาเยือนสามารถประทับใจในความงามและความอุดมสมบูรณ์ของ "ทุ่งโปรงทอง" ที่ได้รับการฟื้นฟูแล้วนี้
บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติในปัจจุบันนั้นมีความสมบูรณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์ของป่าชายเลน โดยเฉพาะ "ทุ่งโปรงทอง" ที่ปกคลุมด้วยโปรงสีทองรวมถึงโปรงทองแท้ๆ มันเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าชมความงดงามของมัน
เมื่อเราเดินเข้าไปในเส้นทางนี้ จะเริ่มต้นด้วยสะพานไม้จากชุมชนแสมผู้ แล้วเดินผ่านทางเดินไม้ระแนงที่ทอดยาวผ่านป่าชายเลน ด้านซ้ายและขวาของทางเดินเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นแสม, ตะบูนดำ, ลำพูน, โกงกาง, โปรงแดง และเมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอกับทุ่งโปรงทองที่เป็นใจกลางของเส้นทางนี้
ทุ่งโปรงทองมีความเฉพาะเจาะจงจากต้นโปรงที่ขึ้นแน่นและใบโปรงสีเขียวตองอ่อนที่แสยะเป็นพุ่มแน่น รวมถึงการแทรกทางของแสงแดดที่ทำให้ใบโปรงเปลี่ยนสีเป็นทองอร่าม มันเป็นทุ่งโปรงที่มีความสูงอยู่ราวๆ 1 เมตรจากพื้นที่เดิน และเมื่อแสงแดดส่องเข้ามาใบโปรงจะสะท้อนกลับมาเป็นสีทอง ทำให้ทุ่งโปรงทองนี้เป็นจุดที่หลายคนนิยมเป็นพิเศษ ความสวยงามและความงดงามของป่าโปรงทองนี้จึงกลายเป็นเรื่องที่คนหลายคนที่ได้มาสัมผัสต้องประทับใจ
ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว ทุ่งโปรงทองและสะพานไม้ชมธรรมชาติยืนยงในความงามของตนเอง เมื่อเดินท่องสะพานไม้ยาวนี้ คุณจะพบกับทุ่งโปรงทองที่ยืนกระพือปลายน้ำ ระยะทางประมาณกิโลเมตรที่สะพานไม้ทอดไปในป่าโกงกาง ความหลากหลายของท้องที่ และสะพานไม้ไผ่ ซึ่งอาจมีรูปตัวที่แตกหักหรือชำรุด ความระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อเดินผ่านส่วนนี้ของเส้นทาง แต่ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ ด้านท้ายของเส้นทาง สะพานไม้จะนำคุณไปสู่ศาลาริมน้ำทะเลประแส แหล่งที่จะให้คุณนั่งผ่อนคลายกับลมสะอาดจากทะเล ความสดชื่นของทะเลประแส และยังสามารถชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ในการเก็บหอยที่ชายเลนริมฝั่ง
อีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะต้องเห็นในบริเวณนี้คือไม้โปรงแดง (Ceriops tagal) ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะที่พบในบริเวณชายเลน เขามีลักษณะที่แข็งแรง ลำต้นตั้งตรงและสูงระหว่าง 7-15 เมตร แต่เมื่อพูดถึงเรื่องราวของทุ่งโปรงทอง ไม้โปรงแดงก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม พวกเขามีรากพิเศษที่ยื่นออกจากลำต้น สร้างภูมิประเทศเฉพาะเจาะจง ไม้โปรงแดงเป็นไม้ที่มีความสำคัญไม่เพียงแต่ด้านทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังเป็นแหล่งที่มาของวัฒนธรรมและการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันของชาวบ้าน ไม้โปรงแดงถูกนำมาใช้สร้างบ้าน เครื่องมือประมง, และเป็นแหล่งผลิตฟืนและถ่าน นอกจากนี้ มันยังมีคุณสรรพคุณทางการแพทย์ที่ใช้เปลือกของมันในการรักษาแผลและหยุดเลือดได้
ทุ่งโปรงทองเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่น่าจะเข้าชมโดยเฉพาะในช่วงเช้าถึงช่วงบ่าย ณ ช่วงเวลานี้, ทุ่งโปรงทองจะประกายสีเหลืองทองอร่ามเมื่อโดนแสงแดด ซึ่งมันจะทำให้คุณได้เห็นความงามที่ไม่เหมือนใคร แต่เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง มีข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวดังนี้:
การเปิดให้เข้าชมทุ่งโปรงทองเริ่มตั้งแต่ 6.00 น. และปิดเวลา 18.00 น. และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเทศบาลปากแม่น้ำประแส ผ่านเบอร์ 038-661-720-1
ทุ่งโปรงทองไม่ใช่แค่แหล่งท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่ซ่อนความสวยงามและความลับของธรรมชาติภายในตัวเองอยู่ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำประแส ทุ่งโปรงทองถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่สามารถสะท้อนถึงความรู้และความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลนได้อย่างชัดเจน
เมื่อเดินทางเข้าสู่บริเวณนี้ นักท่องเที่ยวจะพบกับความสวยงามของป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่งที่ปกคลุมเป็นทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้ทุ่งโปรงทองโดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางคือต้นโปรงที่ขึ้นอย่างหนาแน่นทั่วพื้นที่ ทำให้เกิดสีเขียวอ่อนที่สะท้อนตาของผู้ที่มาเยี่ยมชม เมื่อแสงแดดส่องลงบนต้นโปรงสีทองของต้นโปรงก็จะปรากฏขึ้น จึงทำให้บริเวณนี้ได้รับชื่อว่า "ทุ่งโปรงทอง"
ทุ่งโปรงทองไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางชีวภาพและการเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริง
ทุ่งโปรงทองไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกเพื่อความสวยงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและการฟื้นฟูที่ดีของชุมชนบ้านแสมภู่ ในหมู่ 7 ปากน้ำประแส, อำเภอแกลง อันกว้างขวางกว่า 6,000 ไร่นั้น, ทุ่งโปรงทองเดิมๆ เคยเป็นแหล่งทำการประมง, เลี้ยงกุ้ง, ทำการเกษตร, และทำสวนผลไม้ของชาวบ้านหลายๆ คน แต่กลับเศร้าใจเมื่อมองเห็นสภาพการถูกทำลายของทรัพยากรธรรมชาติ และความสืบโทรมของสิ่งแวดล้อมป่าชายเลนที่หายไปอย่างรวดเร็ว
ในปีพ.ศ. 2544 ชาวบ้านจึงได้ร่วมมือกัน ด้วยศักดิ์ศรีและความรักในทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ที่ถือว่าเป็น "ทุ่งโปรงทอง" ของพวกเขา เพื่อร่วมมืออนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนภายใต้นั้น ก้าวไปยังปีพ.ศ. 2552 องค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่นี้ และได้นำงบประมาณมาใช้ในการพัฒนาทุ่งโปรงทอง และพื้นที่ปากน้ำประแส ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติที่น่าชื่นชม นอกจากนี้ ยังมีการสร้างสะพานเดินชมธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งช่วยให้ผู้มาเยือนสามารถประทับใจในความงามและความอุดมสมบูรณ์ของ "ทุ่งโปรงทอง" ที่ได้รับการฟื้นฟูแล้วนี้
บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติในปัจจุบันนั้นมีความสมบูรณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์ของป่าชายเลน โดยเฉพาะ "ทุ่งโปรงทอง" ที่ปกคลุมด้วยโปรงสีทองรวมถึงโปรงทองแท้ๆ มันเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าชมความงดงามของมัน
เมื่อเราเดินเข้าไปในเส้นทางนี้ จะเริ่มต้นด้วยสะพานไม้จากชุมชนแสมผู้ แล้วเดินผ่านทางเดินไม้ระแนงที่ทอดยาวผ่านป่าชายเลน ด้านซ้ายและขวาของทางเดินเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นแสม, ตะบูนดำ, ลำพูน, โกงกาง, โปรงแดง และเมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอกับทุ่งโปรงทองที่เป็นใจกลางของเส้นทางนี้
ทุ่งโปรงทองมีความเฉพาะเจาะจงจากต้นโปรงที่ขึ้นแน่นและใบโปรงสีเขียวตองอ่อนที่แสยะเป็นพุ่มแน่น รวมถึงการแทรกทางของแสงแดดที่ทำให้ใบโปรงเปลี่ยนสีเป็นทองอร่าม มันเป็นทุ่งโปรงที่มีความสูงอยู่ราวๆ 1 เมตรจากพื้นที่เดิน และเมื่อแสงแดดส่องเข้ามาใบโปรงจะสะท้อนกลับมาเป็นสีทอง ทำให้ทุ่งโปรงทองนี้เป็นจุดที่หลายคนนิยมเป็นพิเศษ ความสวยงามและความงดงามของป่าโปรงทองนี้จึงกลายเป็นเรื่องที่คนหลายคนที่ได้มาสัมผัสต้องประทับใจ
ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว ทุ่งโปรงทองและสะพานไม้ชมธรรมชาติยืนยงในความงามของตนเอง เมื่อเดินท่องสะพานไม้ยาวนี้ คุณจะพบกับทุ่งโปรงทองที่ยืนกระพือปลายน้ำ ระยะทางประมาณกิโลเมตรที่สะพานไม้ทอดไปในป่าโกงกาง ความหลากหลายของท้องที่ และสะพานไม้ไผ่ ซึ่งอาจมีรูปตัวที่แตกหักหรือชำรุด ความระมัดระวังเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อเดินผ่านส่วนนี้ของเส้นทาง แต่ก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำ ด้านท้ายของเส้นทาง สะพานไม้จะนำคุณไปสู่ศาลาริมน้ำทะเลประแส แหล่งที่จะให้คุณนั่งผ่อนคลายกับลมสะอาดจากทะเล ความสดชื่นของทะเลประแส และยังสามารถชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ในการเก็บหอยที่ชายเลนริมฝั่ง
อีกหนึ่งสิ่งที่ควรจะต้องเห็นในบริเวณนี้คือไม้โปรงแดง (Ceriops tagal) ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้เฉพาะที่พบในบริเวณชายเลน เขามีลักษณะที่แข็งแรง ลำต้นตั้งตรงและสูงระหว่าง 7-15 เมตร แต่เมื่อพูดถึงเรื่องราวของทุ่งโปรงทอง ไม้โปรงแดงก็ย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม พวกเขามีรากพิเศษที่ยื่นออกจากลำต้น สร้างภูมิประเทศเฉพาะเจาะจง ไม้โปรงแดงเป็นไม้ที่มีความสำคัญไม่เพียงแต่ด้านทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังเป็นแหล่งที่มาของวัฒนธรรมและการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันของชาวบ้าน ไม้โปรงแดงถูกนำมาใช้สร้างบ้าน เครื่องมือประมง, และเป็นแหล่งผลิตฟืนและถ่าน นอกจากนี้ มันยังมีคุณสรรพคุณทางการแพทย์ที่ใช้เปลือกของมันในการรักษาแผลและหยุดเลือดได้
ทุ่งโปรงทองเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่น่าจะเข้าชมโดยเฉพาะในช่วงเช้าถึงช่วงบ่าย ณ ช่วงเวลานี้, ทุ่งโปรงทองจะประกายสีเหลืองทองอร่ามเมื่อโดนแสงแดด ซึ่งมันจะทำให้คุณได้เห็นความงามที่ไม่เหมือนใคร แต่เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง มีข้อแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวดังนี้:
การเปิดให้เข้าชมทุ่งโปรงทองเริ่มตั้งแต่ 6.00 น. และปิดเวลา 18.00 น. และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเทศบาลปากแม่น้ำประแส ผ่านเบอร์ 038-661-720-1