วัดมังกรกมลาวาส หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดเล่งเน่ยยี่" (ตัวเต็ม: 龍蓮寺, ตัวย่อ: 龙莲寺, พินอิน: Lóng lián sì หลงเหลียนซื่อ, ฮกเกี้ยน: เล้งเหลียนซี่, สำเนียงแต้จิ๋ว: เล่งเน่ยยี่, สำเนียงกวางตุ้ง: หล่งลิ่นจี๋, สำเนียงฮากกา: หลุ่งเหลี่ยนซื้อ) เป็นวัดที่มีความสำคัญในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย และเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนต้องการเยี่ยมชมเมื่อมาถึงกรุงเทพมหานคร
ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วัดเล่งเน่ยยี่ มีความเป็นมาอย่างยาวนานและได้รับความนับถือจากชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนจากต่างประเทศ เมื่อพูดถึงวัดเล่งเน่ยยี่, ไม่เพียงแต่เป็นที่ศูนย์กลางทางวิญญาณและศาสนาสำหรับชุมชนจีนในกรุงเทพ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยและจีน ทำให้วัดเล่งเน่ยยี่กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความหมายสำหรับคนทั้งสองประเทศ
วัดเล่งเน่ยยี่หรือที่บางคนเรียกว่า "วัดมังกร" เนื่องจากคำว่า "เล่ง" หรือ "เล้ง" ในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่ามังกร และส่วนคำว่า “เน่ย” แปลว่า ดอกบัว ทำให้เมื่อนำมารวมกันกับคำว่า “ยี่” ที่แปลว่า วัด จึงกลายเป็นชื่อ "วัดเล่งเน่ยยี่" แต่ชื่อทางการของวัดนี้คือ "วัดมังกรกมลาวาส" ซึ่งได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
วัดเล่งเน่ยยี่ นี้ถูกก่อตั้งในปี พ.ศ. 2414 และใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลา 8 ปีกว่า จนสามารถสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นแบบจีนตอนใต้ โดยสกุลช่างแต้จิ๋ว ที่มีความเชี่ยวชาญ และได้วางแผนการก่อสร้างตามแบบวัดหลวง โดยประกอบด้วยวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ส่วนตรงกลางของวัดจะเป็นพระอุโบสถ และวิหารข้างหลังของพระอุโบสถจะเป็นวิหารเทพเจ้า ทั้งนี้การก่อสร้างวัดได้ใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุหลักในการสร้าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาและวัฒนธรรมจีนที่ถูกสืบสานมา
จากประตูทางเข้าของวัดเล่งเน่ยยี่, เมื่อผู้เข้าวัดเดินไปเรื่อยๆ จะพบกับวิหารท้าวโลกบาลทั้ง 4 ที่มีเทวรูปเทพเจ้า 4 องค์ ตั้งอยู่ภายใน แต่ละเทวรูปนี้เป็นการประดิษฐ์ในรูปแบบนักรบจีนและถืออาวุธหรือสิ่งของต่างๆ เช่น พิณ, ดาบ, ร่ม, เจดีย์ ซึ่งชาวจีนเรียกเทพเจ้าเหล่านี้ว่า "ซี้ไต๋เทียงอ้วง" คือเทพเจ้าที่รับผิดชอบในการปกป้องและคุ้มครองทิศทั้ง 4 ของโลก
เมื่อเดินเข้าไปอีกนิด ผู้เข้าวัดจะพบกับอุโบสถของวัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด ภายในอุโบสถนี้มีศิลาพระประธานคือ พระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ และพระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งสามองค์นี้ชาวจีนเรียกว่า "ซำป้อหุกโจ้ว" นอกจากนี้ภายในอุโบสถยังมีพระอรหันต์อีก 18 องค์ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า "จับโป๊ยหล่อหั่ง" ที่ตั้งอยู่รอบๆ ในสถานที่นี้ เพื่อคุ้มครองและปกป้องวัดเล่งเน่ยยี่
วัดเล่งเน่ยยี่เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของเชื้อชาติจีน ซึ่งบรรยายถึงความศักดิ์สิทธิ์และความน่ายินดีของเทพเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดนี้ เมื่อเดินทางเข้าไปที่ด้านขวาของวัด เราจะพบเทพเจ้าต่าง ๆ หลายองค์ที่มีความเชื่อมโยงกับความเชื่อและวัฒนธรรมจีน รวมถึงตำนานและเรื่องราวที่สืบทอดมายาวนาน
เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาหรือ "ไท้ส่วย เอี๊ยะ" นับว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่มีฐานนิยมเป็นอย่างมาก โดยผู้คนมักนำสัตว์เฝ้ารับประทานเป็นเครื่องสังเกตความคิดเห็นเพื่อขอพรหรือขอความคุ้มครอง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของเขา เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา "หั่วท้อเซียงซือกง" ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีอำนาจในการช่วยเหลือผู้ป่วยและปกป้องสุขภาพ
ส่วนเทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ" เป็นเทพเจ้าที่นิยมไหว้ขอพรมาก เนื่องจากคนเชื่อว่าการไหว้พระเจ้าแห่งโชคลาภนี้จะช่วยให้ตนเองมีโอกาสรับบารมีและโชคดีทางการเงิน ในขณะที่เทพเจ้าเฮ่งเจียหรือ "ไต่เสี่ยหุกโจ้ว" และพระเมตไตรยโพธิสัตว์หรือ "ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว" ทั้งสองนี้มีความคล้ายกับพระมหากัจจายนะ "กวนอิมผู่สัก" และ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ "แป๊ะกง" และ "แป๊ะม่า"
ทั้งหมดนี้ เมื่อรวมเทพเจ้าในวัดเล่งเน่ยยี่จะมีทั้งหมด 58 องค์ แต่ละองค์ไม่เพียงแต่เป็นการสื่อสารความเชื่อ แต่ยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีความหมายใหญ่ต่อสังคมจีนและผู้ที่นับถือ
วัดมังกรกมลาวาส หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดเล่งเน่ยยี่" (ตัวเต็ม: 龍蓮寺, ตัวย่อ: 龙莲寺, พินอิน: Lóng lián sì หลงเหลียนซื่อ, ฮกเกี้ยน: เล้งเหลียนซี่, สำเนียงแต้จิ๋ว: เล่งเน่ยยี่, สำเนียงกวางตุ้ง: หล่งลิ่นจี๋, สำเนียงฮากกา: หลุ่งเหลี่ยนซื้อ) เป็นวัดที่มีความสำคัญในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย และเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนต้องการเยี่ยมชมเมื่อมาถึงกรุงเทพมหานคร
ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วัดเล่งเน่ยยี่ มีความเป็นมาอย่างยาวนานและได้รับความนับถือจากชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนจากต่างประเทศ เมื่อพูดถึงวัดเล่งเน่ยยี่, ไม่เพียงแต่เป็นที่ศูนย์กลางทางวิญญาณและศาสนาสำหรับชุมชนจีนในกรุงเทพ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทยและจีน ทำให้วัดเล่งเน่ยยี่กลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความหมายสำหรับคนทั้งสองประเทศ
วัดเล่งเน่ยยี่หรือที่บางคนเรียกว่า "วัดมังกร" เนื่องจากคำว่า "เล่ง" หรือ "เล้ง" ในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่ามังกร และส่วนคำว่า “เน่ย” แปลว่า ดอกบัว ทำให้เมื่อนำมารวมกันกับคำว่า “ยี่” ที่แปลว่า วัด จึงกลายเป็นชื่อ "วัดเล่งเน่ยยี่" แต่ชื่อทางการของวัดนี้คือ "วัดมังกรกมลาวาส" ซึ่งได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
วัดเล่งเน่ยยี่ นี้ถูกก่อตั้งในปี พ.ศ. 2414 และใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลา 8 ปีกว่า จนสามารถสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นแบบจีนตอนใต้ โดยสกุลช่างแต้จิ๋ว ที่มีความเชี่ยวชาญ และได้วางแผนการก่อสร้างตามแบบวัดหลวง โดยประกอบด้วยวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ส่วนตรงกลางของวัดจะเป็นพระอุโบสถ และวิหารข้างหลังของพระอุโบสถจะเป็นวิหารเทพเจ้า ทั้งนี้การก่อสร้างวัดได้ใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุหลักในการสร้าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาและวัฒนธรรมจีนที่ถูกสืบสานมา
จากประตูทางเข้าของวัดเล่งเน่ยยี่, เมื่อผู้เข้าวัดเดินไปเรื่อยๆ จะพบกับวิหารท้าวโลกบาลทั้ง 4 ที่มีเทวรูปเทพเจ้า 4 องค์ ตั้งอยู่ภายใน แต่ละเทวรูปนี้เป็นการประดิษฐ์ในรูปแบบนักรบจีนและถืออาวุธหรือสิ่งของต่างๆ เช่น พิณ, ดาบ, ร่ม, เจดีย์ ซึ่งชาวจีนเรียกเทพเจ้าเหล่านี้ว่า "ซี้ไต๋เทียงอ้วง" คือเทพเจ้าที่รับผิดชอบในการปกป้องและคุ้มครองทิศทั้ง 4 ของโลก
เมื่อเดินเข้าไปอีกนิด ผู้เข้าวัดจะพบกับอุโบสถของวัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด ภายในอุโบสถนี้มีศิลาพระประธานคือ พระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ และพระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งสามองค์นี้ชาวจีนเรียกว่า "ซำป้อหุกโจ้ว" นอกจากนี้ภายในอุโบสถยังมีพระอรหันต์อีก 18 องค์ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า "จับโป๊ยหล่อหั่ง" ที่ตั้งอยู่รอบๆ ในสถานที่นี้ เพื่อคุ้มครองและปกป้องวัดเล่งเน่ยยี่
วัดเล่งเน่ยยี่เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาของเชื้อชาติจีน ซึ่งบรรยายถึงความศักดิ์สิทธิ์และความน่ายินดีของเทพเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดนี้ เมื่อเดินทางเข้าไปที่ด้านขวาของวัด เราจะพบเทพเจ้าต่าง ๆ หลายองค์ที่มีความเชื่อมโยงกับความเชื่อและวัฒนธรรมจีน รวมถึงตำนานและเรื่องราวที่สืบทอดมายาวนาน
เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาหรือ "ไท้ส่วย เอี๊ยะ" นับว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่มีฐานนิยมเป็นอย่างมาก โดยผู้คนมักนำสัตว์เฝ้ารับประทานเป็นเครื่องสังเกตความคิดเห็นเพื่อขอพรหรือขอความคุ้มครอง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของเขา เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา "หั่วท้อเซียงซือกง" ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีอำนาจในการช่วยเหลือผู้ป่วยและปกป้องสุขภาพ
ส่วนเทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ" เป็นเทพเจ้าที่นิยมไหว้ขอพรมาก เนื่องจากคนเชื่อว่าการไหว้พระเจ้าแห่งโชคลาภนี้จะช่วยให้ตนเองมีโอกาสรับบารมีและโชคดีทางการเงิน ในขณะที่เทพเจ้าเฮ่งเจียหรือ "ไต่เสี่ยหุกโจ้ว" และพระเมตไตรยโพธิสัตว์หรือ "ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว" ทั้งสองนี้มีความคล้ายกับพระมหากัจจายนะ "กวนอิมผู่สัก" และ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ "แป๊ะกง" และ "แป๊ะม่า"
ทั้งหมดนี้ เมื่อรวมเทพเจ้าในวัดเล่งเน่ยยี่จะมีทั้งหมด 58 องค์ แต่ละองค์ไม่เพียงแต่เป็นการสื่อสารความเชื่อ แต่ยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีความหมายใหญ่ต่อสังคมจีนและผู้ที่นับถือ