ผาชู้ ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ผาชู้ อยู่ห่างจาก ดอยเสมอดาว ประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นจุดที่มีที่พักและลานกางเต็นท์ ทำให้การท่องเที่ยวผาชู้เป็นประสบการณ์ที่ยากที่จะลืม
ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ ผาชู้ ยังมีเรื่องเล่าและตำนานที่สร้างสรรค์ขึ้น ตำนานผาชู้ ถูกขานต่อมาจากคนรุ่นหนึ่งไปยังอีกคนรุ่นหนึ่ง ด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับต้นจ๋วง (ต้นสน), ต้นจันทร์ผา และดอกเอื้อง ที่นำมาสร้างเนื้อหาของตำนาน และยังเป็นต้นเหตุของชื่อ "ผาชู้" ตำนานนี้เล่าถึงรักสามเส้าที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรม ทำให้ผาชู้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ร่ำรวยและน่าสำรวจอีกด้วย
เคยได้ยินเรื่องราวที่ผู้คนโบราณทั่วไปนำมาสืบทอดเกี่ยวกับผาชู้บ้างหรือไม่? ว่าแล้วแต่ที่จะเชื่อ แต่เรื่องราวนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผาชู้มีความพิเศษ ในอดีตนั้น มีผู้ทรงศักดิ์ศรีชื่อ "เจ้าจ๋วง" และมีภรรยาชื่อ "เจ้าจันทร์" แต่วันหนึ่ง เจ้าจ๋วงได้เดินทางไปที่ป่าใหญ่และหลงทาง จนได้พบผาหินสูงยิ่งใหญ่ เมื่อเข้าไปข้างใน ในที่สุดก็พบกับความจริงที่เจ้าจ๋วงไม่สามารถต้านทานได้ ที่นั่นมี "เอื้อง" สาวงามลูกสาวของนายพราน ที่ทั้งสองตกหลุมรักกัน ในขณะที่เจ้าจ๋วงยังต้องมาจากผาชู้ เจ้าจันทร์ จึงได้ตามหา และค้นพบว่าเจ้าจ๋วงกำลังตกหลุมรักกับเอื้อง และในที่สุด เจ้าจันทร์ ได้ยื่นข้อเสนอให้เจ้าจ๋วงเลือกรักใครผู้หนึ่ง แต่เจ้าจ๋วงไม่สามารถตัดสินใจได้ ดังนั้นเขาได้อธิษฐานว่า "ถ้าความรักที่เรามีกันเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ขอให้ร่างกายของเรากลายเป็นต้นไม้ที่ยืนยงอยู่กับผาหินนี้ตลอดกาล" จากนั้น เขาก็กระโดดลงจากผาชู้ เมื่อเจ้าจันทร์และเอื้องเห็นเหตุการณ์นี้ เขาก็ตามกระโดดลงผาตายกันไป ด้วยการอธิษฐานที่แรงขนานนี้ เขาก็ได้รวมร่างกันในรูปแบบของต้นไม้ตลอดกาล ร่างของเจ้าจ๋วงกลายเป็น "ต้นจ๋วง" ร่างของเจ้าจันทร์กลายเป็น "ต้นจันทร์ผา" และร่างของเอื้องกลายเป็น "ดอกเอื้อง" ที่ยังคงอยู่บนผาชู้ถึงทุกวันนี้ ที่นี่คือที่มาของชื่อ "ผาชู้" ที่เราเรียกกันถึงในวันนี้
ผาชู้ ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ผาชู้ อยู่ห่างจาก ดอยเสมอดาว ประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นจุดที่มีที่พักและลานกางเต็นท์ ทำให้การท่องเที่ยวผาชู้เป็นประสบการณ์ที่ยากที่จะลืม
ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ ผาชู้ ยังมีเรื่องเล่าและตำนานที่สร้างสรรค์ขึ้น ตำนานผาชู้ ถูกขานต่อมาจากคนรุ่นหนึ่งไปยังอีกคนรุ่นหนึ่ง ด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับต้นจ๋วง (ต้นสน), ต้นจันทร์ผา และดอกเอื้อง ที่นำมาสร้างเนื้อหาของตำนาน และยังเป็นต้นเหตุของชื่อ "ผาชู้" ตำนานนี้เล่าถึงรักสามเส้าที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรม ทำให้ผาชู้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ร่ำรวยและน่าสำรวจอีกด้วย
เคยได้ยินเรื่องราวที่ผู้คนโบราณทั่วไปนำมาสืบทอดเกี่ยวกับผาชู้บ้างหรือไม่? ว่าแล้วแต่ที่จะเชื่อ แต่เรื่องราวนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผาชู้มีความพิเศษ ในอดีตนั้น มีผู้ทรงศักดิ์ศรีชื่อ "เจ้าจ๋วง" และมีภรรยาชื่อ "เจ้าจันทร์" แต่วันหนึ่ง เจ้าจ๋วงได้เดินทางไปที่ป่าใหญ่และหลงทาง จนได้พบผาหินสูงยิ่งใหญ่ เมื่อเข้าไปข้างใน ในที่สุดก็พบกับความจริงที่เจ้าจ๋วงไม่สามารถต้านทานได้ ที่นั่นมี "เอื้อง" สาวงามลูกสาวของนายพราน ที่ทั้งสองตกหลุมรักกัน ในขณะที่เจ้าจ๋วงยังต้องมาจากผาชู้ เจ้าจันทร์ จึงได้ตามหา และค้นพบว่าเจ้าจ๋วงกำลังตกหลุมรักกับเอื้อง และในที่สุด เจ้าจันทร์ ได้ยื่นข้อเสนอให้เจ้าจ๋วงเลือกรักใครผู้หนึ่ง แต่เจ้าจ๋วงไม่สามารถตัดสินใจได้ ดังนั้นเขาได้อธิษฐานว่า "ถ้าความรักที่เรามีกันเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ขอให้ร่างกายของเรากลายเป็นต้นไม้ที่ยืนยงอยู่กับผาหินนี้ตลอดกาล" จากนั้น เขาก็กระโดดลงจากผาชู้ เมื่อเจ้าจันทร์และเอื้องเห็นเหตุการณ์นี้ เขาก็ตามกระโดดลงผาตายกันไป ด้วยการอธิษฐานที่แรงขนานนี้ เขาก็ได้รวมร่างกันในรูปแบบของต้นไม้ตลอดกาล ร่างของเจ้าจ๋วงกลายเป็น "ต้นจ๋วง" ร่างของเจ้าจันทร์กลายเป็น "ต้นจันทร์ผา" และร่างของเอื้องกลายเป็น "ดอกเอื้อง" ที่ยังคงอยู่บนผาชู้ถึงทุกวันนี้ ที่นี่คือที่มาของชื่อ "ผาชู้" ที่เราเรียกกันถึงในวันนี้