วัดมหาธาตุ ซึ่งตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร ความสำคัญของวัดมหาธาตุไม่ได้จำกัดเพียงแค่ทางศาสนา แต่ยังรวมถึงบทบาททางการเมืองและวัฒนธรรมอีกด้วย
ในประวัติศาสตร์ไทย วัดมหาธาตุมีบทบาทเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและศรัทธาทางศาสนา วัดนี้ได้สร้างขึ้นในช่วงเวลาที่กรุงศรีอยุธยากำลังเฟื่องฟู และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดในอาณาจักร ด้วยการที่วัดมหาธาตุเป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุ ซึ่งเป็นวัตถุสักการะที่มีความสำคัญต่อพุทธศาสนา ทำให้วัดนี้เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณและศาสนาในประเทศ
ทว่า หลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดมหาธาตุได้ถูกทำลายลงอย่างหนัก ซึ่งสะท้อนถึงการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ทั้งทางวัฒนธรรมและศาสนา การที่วัดมหาธาตุถูกทำลายไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียโบราณสถานที่สำคัญ แต่ยังเป็นการสูญเสียหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาติ อย่างไรก็ตาม ความไม่ชัดเจนในประวัติของวัดมหาธาตุก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความน่าสนใจ บางแหล่งข้อมูลระบุว่าวัดนี้ได้รับการก่อสร้างในปี
ในยุคของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระปรางค์วัดมหาธาตุเคยถูกทำลายลงมาเกือบครึ่งหนึ่งจนถึงชั้นครุฑ โดยเดิมพระปรางค์นี้ถูกสร้างด้วยศิลาแลง แม้จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พระปรางค์นี้ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมให้กลับมาสู่สภาพเดิม ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระปรางค์ได้รับการบูรณะใหม่จนมีความสูงรวม 25 วา แต่ก็ได้พังทลายลงอีกครั้งในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการนำกำลังทหารไปช่วยสร้างยอดพระปรางค์ด้วยไม้สักชั้นเยี่ยมและประกาศให้เป็นพระปรางค์ประจำชาติ และในที่สุด พระปรางค์วัดมหาธาตุก็ยังคงตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่าของประเทศไทย
วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ เปิดให้เข้าชมทุก วันตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท และตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30 น. - 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน
วัดมหาธาตุ ซึ่งตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ นับเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะในสมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร ความสำคัญของวัดมหาธาตุไม่ได้จำกัดเพียงแค่ทางศาสนา แต่ยังรวมถึงบทบาททางการเมืองและวัฒนธรรมอีกด้วย
ในประวัติศาสตร์ไทย วัดมหาธาตุมีบทบาทเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและศรัทธาทางศาสนา วัดนี้ได้สร้างขึ้นในช่วงเวลาที่กรุงศรีอยุธยากำลังเฟื่องฟู และได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดในอาณาจักร ด้วยการที่วัดมหาธาตุเป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุ ซึ่งเป็นวัตถุสักการะที่มีความสำคัญต่อพุทธศาสนา ทำให้วัดนี้เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณและศาสนาในประเทศ
ทว่า หลังจากการเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดมหาธาตุได้ถูกทำลายลงอย่างหนัก ซึ่งสะท้อนถึงการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ทั้งทางวัฒนธรรมและศาสนา การที่วัดมหาธาตุถูกทำลายไม่เพียงแต่เป็นการสูญเสียโบราณสถานที่สำคัญ แต่ยังเป็นการสูญเสียหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาติ อย่างไรก็ตาม ความไม่ชัดเจนในประวัติของวัดมหาธาตุก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความน่าสนใจ บางแหล่งข้อมูลระบุว่าวัดนี้ได้รับการก่อสร้างในปี
ในยุคของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม พระปรางค์วัดมหาธาตุเคยถูกทำลายลงมาเกือบครึ่งหนึ่งจนถึงชั้นครุฑ โดยเดิมพระปรางค์นี้ถูกสร้างด้วยศิลาแลง แม้จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พระปรางค์นี้ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมให้กลับมาสู่สภาพเดิม ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระปรางค์ได้รับการบูรณะใหม่จนมีความสูงรวม 25 วา แต่ก็ได้พังทลายลงอีกครั้งในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการนำกำลังทหารไปช่วยสร้างยอดพระปรางค์ด้วยไม้สักชั้นเยี่ยมและประกาศให้เป็นพระปรางค์ประจำชาติ และในที่สุด พระปรางค์วัดมหาธาตุก็ยังคงตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่าของประเทศไทย
วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ เปิดให้เข้าชมทุก วันตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท และตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30 น. - 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน