วัดแม่นางปลื้ม ตั้งอยู่ในอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประวัติย้อนหลังไปถึงสมัยอยุธยาตอนต้น โดยสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1920 วัดแห่งนี้เป็นที่ประจักษ์ให้เห็นถึงศิลปะการสร้างของยุคสมัยนั้น โดยเฉพาะที่ซุ้มประตูวัด ที่เป็นตัวแทนของศิลปะอยุธยาแบบดั้งเดิม บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยความร่มรื่น และความงดงามที่ผสมผสานกับความมนต์ขลัง ทำให้ผู้ที่มาเยือนรู้สึกสงบ และผ่อนคลายทั้งกายและใจ
วัดแม่นางปลื้มไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ทางศาสนา แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผู้ที่มาเยือนสามารถชื่นชมงานศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรอยุธยาในอดีต นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพื้นที่สงบเงียบที่เหมาะสำหรับการทำสมาธิ และการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมะ
การเยี่ยมชมวัดแม่นางปลื้มจึงไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกของความสงบและความงามทางธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้และชื่นชมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทย ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใครสำหรับนักท่องเที่ยวและนักประวัติศาสตร์ที่สนใจในอดีตที่รุ่งเรืองของไทย
วัดแม่นางปลื้มมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ตามตำนานเล่าว่า แม่นางปลื้มเป็นหญิงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำใกล้พระนคร โดดเดี่ยวและไม่มีลูกหลาน ในวันหนึ่งที่ฝนตกหนัก สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเดินทางมาด้วยพระองค์เองโดยพายเรือ ทรงพบเห็นกระท่อมของแม่นางปลื้มที่ยังสว่างไสวด้วยแสงตะเกียง ด้วยความมีน้ำใจ แม่นางปลื้มเชื้อเชิญพระองค์เข้ามาพักในกระท่อมของเธอ
สมเด็จพระนเรศวรทรงขอน้ำจันทน์เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เนื่องจากเป็นวันพระ แม่ปลื้มจึงหวั่นเกรงว่าจะมีปัญหาหากพระเจ้าแผ่นดินทรงรู้เรื่องนี้ แต่ในที่สุดเธอก็ยินดีให้น้ำจันทน์กับพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรทรงประทับค้างคืนที่บ้านของแม่ปลื้ม และในวันรุ่งขึ้น ทรงเสด็จกลับไปยังวังพร้อมกับนำแม่ปลื้มไปด้วยเพื่อเลี้ยงดูที่วัง
หลังจากแม่ปลื้มเสียชีวิต สมเด็จพระนเรศวรทรงจัดงานศพให้แก่เธออย่างสมเกียรติ และทรงบูรณะวัดร้างเพื่อเป็นการอุทิศให้กับแม่นางปลื้ม วัดนี้จึงได้รับการตั้งชื่อเป็น "วัดแม่นางปลื้ม" เพื่อเป็นเกียรติและความทรงจำถึงคุณงามความดีของเธอต่อพระมหากษัตริย์และชาติ