วัดป่าคำหัวช้าง เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนา ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลม่วงหวาน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยสามารถเดินทางมาถึงได้ง่ายจากถนนสายมิตรภาพ และเมื่อคุณเดินทางมาถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 28 ก่อนที่จะไปถึงเขื่อนอุบลรัตน์ คุณจะได้เห็นรูปปั้นช้างจำนวนมากที่ตกแต่งข้างทาง พวกมันมีหลายรูปทรงและขนาด ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ โดยประมาณรวมๆ ก็ถึงพัน หรือแม้กระทั่งหมื่นตัว ซึ่งทำให้บริเวณนี้มีความน่าสนใจและเป็นจุดเด่นที่มองไม่ข้ามไปได้ แนะนำให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจ หากผ่านมายังต้องหยุดมาชมและถ่ายภาพเป็นความทรงจำ
ประวัติศาสตร์และตำนานรายล้อมไปด้วยเรื่องราวของสถานที่ต่างๆ และวัดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มักเก็บเรื่องราวไว้มากมาย ตามประวัติศาสตร์ที่ได้ยินมา บริเวณที่ตั้งของวัดในครั้งก่อนเคยเป็นเส้นทางหลักที่ใช้สำหรับการเดินทัพไปรบในประเทศลาว ในแต่ละครั้งที่กองทัพต้องออกจากประเทศหรือกลับมาจากการรบ พวกเขาจะเลือกที่จะพักผ่อนและรีบเตรียมตนเองที่บริเวณนี้ เนื่องจากมีแหล่งน้ำที่ชาวทัพและสัตว์ เช่น ช้างศึกและม้าศึก สามารถเข้ามาดื่มน้ำและพักผ่อนได้
หนองน้ำที่อยู่ใกล้วัดเมื่อก่อนเป็นหนองน้ำที่ลึกและกว้าง แต่ในปัจจุบันสภาพของมันได้เปลี่ยนแปลงไปมาก และไม่คงเหมือนเดิมอีกต่อไป มีเรื่องราวที่ถูกเล่าต่อมาถึงเหตุการณ์เศร้าของช้างศึกเชือกหนึ่ง ที่หลงตกลงไปในหนองน้ำนั้น แม้จะพยายามด้วยทุกวิธีในการช่วยช้างนั้นขึ้นมา แต่ด้วยความลึกของหนองน้ำ ทำให้การรescue มันกลายเป็นเรื่องยาก และในที่สุดก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของช้างศึกเชือกนั้นได้ ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวที่ชาวบ้านในยุคนั้นยังคงเล่าต่อกันไป
หลังจากนั้น ที่วัดมีการค้นพบโครงกระดูกช้างซึ่งน่าจะเป็นช้างเชือกที่ถูกกล่าวถึง สิ่งนี้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างรูปปั้นช้างขนาดจริงขึ้น และจัดวางที่หน้าวัดเพื่อให้นักบุญหรือผู้มาเยี่ยมชมเห็นและรำลึกถึงประวัติของช้างเชือกนี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่สถานที่นี้เป็นวัด จึงมีการประดิษฐานรูปปั้นพระพุทธรูปที่ยืนในท่าประทานพร ไว้ข้างหน้ารูปปั้นช้างเพื่อเป็นการแสดงถึงความศรัทธา
มีเหตุการณ์น่าทึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีเจ้าที่มาเข้าสู่ร่างของผู้ที่มาทำบุญที่วัดนี้ พร้อมทั้งให้คำแนะนำว่า หลังจากรูปปั้นช้างเสร็จแล้วควรตั้งชื่อให้ช้างด้วย และเสนอชื่อว่า "แก้วกระดิ่งทอง" เพราะว่าเจ้าที่ที่มาเข้าร่างนี้เปิดเผยว่า "แก้วกระดิ่งทอง" เป็นชื่อของช้างศึกที่เป็นของน้องสาวย่าโมจากเมืองโคราช และน่าจะเป็นช้างเชือกเดียวกันที่เคยพลัดตกไปแล้วเสียชีวิตในหนองน้ำบริเวณนี้
ในบริเวณทางโค้งของศาลปู่คำหัวช้าง มีรูปปั้นภาพของชายแก่ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นเครื่องหมายและเครื่องค้นคว้าใจแห่งบริเวณนั้น ในยุคที่ถนนยังมีเพียง 2 เลน พื้นที่นี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่เกิดอุบัติเหตุรถชนหนักๆ จนทำให้คนตายเป็นจำนวนมาก และได้รับการเรียกในนามที่น่ากลัวว่า "โค้งร้อยศพ" บ้านเมืองได้ตระหนักถึงความร้ายแรงและความอันตรายของพื้นที่นี้ จึงได้มีการแก้ไขปัญหาโดยการสร้างรูปปั้นของชายแก่เพื่อเป็นเครื่องเตือนความระมัดระวังแก่ผู้ที่ผ่านมา พร้อมกับการย้ายสถานที่ตั้งของศาลเดิมมาอยู่รวมกันกับศาลปู่คำหัวช้าง เพื่อเป็นการเพิ่มความศักดิ์ศรีและความเคารพต่อที่นี้ เมื่อเวลาผ่านไป ถนนในพื้นที่นี้ได้รับการขยายเป็น 4 เลน และเรื่องราวและความเชื่อมั่นเกี่ยวกับ "โค้งร้อยศพ" ก็ค่อยๆ ตกลืมและหายไปจากความทรงจำของผู้คนในยุคปัจจุบัน
ผู้ที่เดินทางไปถวายความเคารพและขอพรที่พระและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มักจะนำรูปปั้นที่มีลักษณะเป็นช้างมาแสดงถึงความศรัทธาและความปรารถนาของตน เราเรียกรูปปั้นช้างนี้ว่า "ช้างแก้บน" โดยเฉพาะที่วัดป่าคำหัวช้าง แหล่งกำเนิดของประเพณีนี้
เท่าที่ทราบ ความเชื่อเกี่ยวกับช้างแก้บนนี้มีแหล่งกำเนิดมาจากความศรัทธาของผู้คนที่มาขอพรณะ บนบานศาลได้เล่าถึงปู่คำหัวช้าง ซึ่งในวันวานเคยเป็นช้างศึก พวกเขาเชื่อว่าการมาขอพรจากช้างนี้จะทำให้เขาได้รับสิ่งที่ต้องการ ซึ่งเมื่อความปรารถนาหรือความหวังของพวกเขาเป็นจริง พวกเขาจึงนำรูปปั้นช้างที่มีขนาดต่าง ๆ มาถวายเป็นของแทนแก้บนเพื่อแสดงความขอบคุณและเคารพต่อช้างศักดิ์สิทธิ์นี้