วัดวรเชษฐาราม ถือเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญของกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ในทำเลที่เชื่อมต่อระหว่างพระราชวังหลวงและพระราชวังหลัง ภายในกำแพงเมืองโบราณของพระนครศรีอยุธยา ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกในพระราชพงศวดาร วัดวรเชษฐารามนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าเอกาทศรถ ในช่วงประมาณ พ.ศ. 2136 ซึ่งตรงกับช่วงที่พระนเรศวรมหาราช พี่ชายของพระเอกาทศรถ นำทัพไปรบที่เมืองตองอู
ในขณะที่พระนเรศวรกำลังเคลื่อนทัพไปถึงเมืองหาง ทรงประสบกับอาการป่วยหนักและได้เสด็จสวรรคตในที่สุด ด้วยความเสียใจและเพื่อเป็นการถวายความเคารพ พระเอกาทศรถจึงมีพระบัญชาให้นำพระศพของพระนเรศวรกลับมายังกรุงศรีอยุธยา และได้จัดพิธีเผาศพอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีการสร้างพระเมรุสูงถึง 17 วา พร้อมทั้งเชิญพระสงฆ์จำนวนมากถึง 10,000 องค์เข้าร่วมในพิธีนี้ มีความเชื่อว่าพิธีการนี้ได้จัดขึ้นที่วัดวรเชษฐาราม
นอกจากนี้ วัดวรเชษฐารามยังเป็นสักขีพยานของเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างในประวัติศาสตร์ไทย ทั้งในด้านวัฒนธรรมและการปกครอง การสร้างวัดนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเชื่อและความศรัทธาทางศาสนาของประชาชนในสมัยนั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของราชวงศ์ที่ปกครองกรุงศรีอยุธยาในขณะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของรัชกาลของพระเจ้าเอกาทศรถและพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศไทยมีความเจริญทางทหารและวัฒนธรรมอย่างมาก การเข้ามามีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนกับวัดวรเชษฐารามจึงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างสถานที่ทางศาสนา แต่ยังเป็นการแสดงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์และประเทศไทยในขณะนั้นอีกด้วย
ภายในกำแพงของวัดวรเชษฐารามประกอบไปด้วย เจดีย์ประธานที่มีลักษณะทรงลังกาแบบสุโขทัย ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและงดงาม และเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยในยุคสุโขทัย ในบริเวณวัดยังมีพระวิหารจำนวนสามหลังที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือช่างที่ประณีต แต่ละหลังมีลักษณะเฉพาะตัวและตกแต่งอย่างมีศิลปะ นอกจากนี้ ยังมีพระอุโบสถที่ใช้สำหรับพิธีทางศาสนาและเป็นสถานที่สำคัญของวัด รวมถึงพระเจดีย์ย่อมุมขนาดเล็กสององค์ที่ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน โดยมีความเชื่อว่าอาจจะมีการบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้ภายในเจดีย์องค์ใดองค์หนึ่งในวัดนี้ วัดวรเชษฐารามจึงเป็นทั้งสถานที่ทางศาสนาและศูนย์รวมของวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และความเชื่อของชาวไทยในอดีต