เขาช้างเผือกไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักผจญภัยและคนรักธรรมชาติหวังอยู่เพื่อทดสอบความกล้าและความสามารถในการเดินป่า แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความงดงามและความสูงส่งของภูเขาในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิด้วย ยอดเขาช้างเผือกก่อนอื่นตระหง่านอยู่เหนือพื้นดินอย่างสูงยิ่ง, รอให้คนที่กล้าหาญมาคว้าความสำเร็จและประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน จุดเด่นของเขาช้างเผือกคือสันเขาที่หวาดเสียวที่สุดและเรียกว่า "สันคมมีด" ซึ่งเป็นการท้าทายสำหรับทุกคนที่ขึ้นไปถึงยอด
ตั้งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดเดียวกันกับอุทยานแห่งชาติ เขาช้างเผือกถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของท้องถิ่น บนยอดเขาปกคลุมไปด้วยหญ้าและแม้แต่หินที่เกาะติดอยู่บนสันเขา ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่สร้างความน่าจดจำและความสวยงามของเขาช้างเผือก การเดินทางมายังนี่จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ การลงทะเบียนเป็นขั้นตอนที่จำเป็นและจำกัดจำนวนคนที่สามารถขึ้นไปบนยอดเขาในแต่ละวันไว้ที่ 60 คน เนื่องจากพื้นที่ในบริเวณยอดเขาที่สามารถกางเต็นท์ได้มีขนาดจำกัด
สำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาแบบ 1 คืน 2 วัน เขาช้างเผือกเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม มีการจัดทัวร์ขึ้นเขาที่สามารถปรับเปลี่ยนเมนูตามความต้องการของนักท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้น เขาช้างเผือกยังเป็นจุดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายภาพและสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยรุ่นใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์ ยอดเขาช้างเผือกยังคงรอคุณมาพิสูจน์ความกล้าและรักในการท่องเที่ยวอยู่เสมอ
การผจญภัยเพื่อสู่ยอดเขาช้างเผือกเริ่มต้นขึ้นอย่างสูงส่งที่หลังหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ ที่ใช้เวลาเดินปีนประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงจุดที่สามารถตั้งเต็นท์หรือแค้มป์ได้ การเดินขึ้นไปในเส้นทางนี้คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ป่าที่โปร่งแสนสงบ ถึงทุ่งหญ้าที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และแน่นอน แสงแดดที่ร้อนแรงจะเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่คุณจะต้องเผชิญ ดังนั้น ควรจัดเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความท้าทายที่อยู่เบื้องหน้านี้ให้ดีที่สุด
เมื่อคุณได้เดินขึ้นไปถึงจุดตั้งแค้มป์แล้ว การเดินทางต่อไปถึงยอดเขาช้างเผือก ก็ยังเหลืออีกประมาณ 500-600 เมตร เนื่องจากเรายังต้องผ่านอุปสรรคที่คนส่วนใหญ่ถือว่าเป็น "ไฮไลท์" ของการเดินทาง นั่นคือ "สันคมมีด" หรือ "สันวัดใจ" คือส่วนของเส้นทางที่มีความรุนแรงและท้าทาย ซึ่งเป็นการเดินบนสันเขาที่แคบและสูง มีก้อนหินและเหวที่ลาดลึกอยู่ทั้งสองข้าง เหมือนเดินบนคมมีดที่ถูกยื่นขึ้นสูง ซึ่งหากไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เกิดอันตรายได้
ในเวลานี้ การปีนขึ้นสันคมมีดได้รับการปรับปรุงให้ง่ายขึ้นด้วยการขึงเชือกให้นักท่องเที่ยวสามารถจับพยุงตัวได้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางผ่านสันคมมีดนี้ ยังคงทำให้หลายคนรู้สึกตื่นเต้น หน้ามืด หรือถึงกับที่จะก้าวขาไปต่อไม่ได้ เหมือนเป็นการทดสอบใจกล้าของทุกคนที่เดินทางมาถึงเขาช้างเผือก
และในที่สุด คุณจะได้มาถึงจุดสูงสุดของเขาช้างเผือก ที่ความสูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ 360 องศาที่ไม่มีอะไรบดบัง อย่าลืมถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นความทรงจำว่าคุณได้พิชิตยอดเขาช้างเผือก และผ่านสันคมมีดไปแล้ว
ในการเดินทางขึ้นเขาช้างเผือก ควรจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างดี ซึ่งบนเขาไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร หรือที่พักให้บริการ การเดินทางขึ้นเขานี้จึงจำเป็นต้องใช้เวลาครึ่งวัน และคุณอาจจะต้องจ้างลูกหาบเพื่อขนสัมภาระ และนอนค้างคืนบนยอดเขา แต่เมื่อคุณได้มาถึงยอดแล้ว คุณจะพบว่าคุณภาพของเที่ยวที่คุณได้สัมผัสมา มีค่าที่จะต้องเสียเวลา แรงงาน และความเหนื่อยล้าที่ได้ลงทุนไป
ช่วงปลายฝนและต้นหนาวเป็นช่วงที่ทัศนียภาพของธรรมชาติแสดงออกในรูปแบบที่หลากหลายและงดงามที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าบนยอดเขาที่เปลี่ยนสีเป็นเขียวสดใส หรือเขาช้างเผือกที่ยืนยงในทิวทัศน์ สร้างให้เรารู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร
อากาศกลางคืนหนาวจัด พร้อมทั้งหมอกปกคลุมท้องฟ้าในตอนเช้า ทำให้คุณมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกที่แสนวิเศษ ปรากฏตัวสายๆ หรือแม้แต่ก่อนขึ้นแสงอาทิตย์ สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและสงบลงใจ
ถ้าคุณเลือกที่จะเดินทางมาในช่วงที่ยังมีฝนตก ควรระวังเรื่องของทางเดินที่อาจจะลื่น การตระเตรียมรองเท้าที่มีหน้ารอยดีสำคัญมากในช่วงนี้ นอกจากนั้น ยังควรมียาสำหรับป้องกันแมลงและทากในกระเป๋าเพื่อการเที่ยวที่สะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ในสรุป ช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ ไม่เพียงแต่จะให้คุณได้รับความงดงามของทุ่งหญ้าและเขาช้างเผือก แต่ยังให้คุณได้รูปแบบของประสบการณ์ที่แตกต่างและหลากหลาย ทั้งทางธรรมชาติและแม้แต่ทางสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรมาสัมผัสและประสบในชีวิตอย่างหนึ่ง