อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

         อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หรือที่เรียกกันในท้องถิ่นว่า "มรดกธรรมชาติของจังหวัดกาญจนบุรี" ตั้งอยู่ในเขตอำเภอไทรโยค, อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอทองผาภูมิ ของจังหวัดกาญจนบุรี ในประเทศไทย อุทยานนี้เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีความหลากหลายทางนิเวศน์และน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะประกอบด้วยลักษณะทัศนียภาพที่น่าประทับใจ เช่น น้ำตกที่ประดับล้ำค่าด้วยความงดงาม, น้ำพุร้อนที่เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น, ถ้ำที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และหลายๆเกาะแก่งในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ที่มีทิวทัศน์สวยงามและสงบ อีกทั้งยังมีเขตติดต่อกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค, อุทยานแห่งชาติเอราวัณ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ

          พื้นที่ทั้งหมดของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีขนาดใหญ่ถึงประมาณ 957,500 ไร่ หรือประมาณ 1,532 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่มากและมีความหลากหลายทางนิเวศน์ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่นี้จะได้สัมผัสกับความงดงามและความหลากหลายของธรรมชาติ รวมถึงการได้เรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ

          อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่ได้เป็นแค่สถานที่สำหรับท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งศึกษาและวิจัยทางนิเวศวิทยา ตลอดจนเป็นฐานข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับนักวิทยาศาสตร์และนักศึกษา โดยทั่วไป ความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่นี้ทำให้มันเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและประเพณีวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่

อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์_1

ข้อมูลของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

          อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมในประเทศไทย โดยเนื้อที่ของอุทยานนี้ตั้งอยู่ในบริเวณป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งเหนือจากเขื่อนศรีนครินทร์ และเป็นที่ที่มีความสมบูรณ์ของระบบนิเวศในรูปแบบภูเขาและป่าสลับซับซ้อน ที่รองรับสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในหลายประเภท ซึ่งรวมถึงเอกลักษณ์ทางธรรมชาติอื่น ๆ หลายแห่ง เช่น น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น, น้ำพุร้อน, ถ้ำ, และทะเลสาบ

          การก่อตั้งอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้รับความสนับสนุนจากมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2522 โดยได้รับคำสั่งจากกองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ในปี พ.ศ.2523 โดยมีคำสั่งที่ 71/2523 ลงวันที่ 11 มกราคม 2523 ที่แต่งตั้งนายนิสัย ฟุ้งขจร เป็นนักวิชาการป่าไม้ 5 และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ

          บทบาทของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงที่การอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่าเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ตามที่เสนอในคราวประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ครั้งที่ 3/2522 ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2522 โดยนายผ่อง เล่งอี้ ผู้อำนวยการกองอุทยานแห่งชาติ ที่ได้เสนอว่า กรมป่าไม้ มีโครงการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติในบริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะสำรวจของจังหวัดกาญจนบุรีในการทำการสำรวจพื้นที่ และการสำรวจพบว่า มีความสวยงามทางภูมิประเทศและทิวทัศน์ รวมถึงลักษณะทางธรรมชาติที่เด่นและหลากหลาย ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ธรรมชาติในแบบที่ยั่งยืน

อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์_2

ลักษณะของภูมิประเทศพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

         อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและสัตว์ป่าที่หลากหลาย แต่ยังเกิดขึ้นจากการกั้นแม่น้ำแม่กลอง (หรือที่รู้จักในชื่อแควใหญ่) โดยการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ ด้วยเหตุนี้ ทำให้พื้นที่ในอุทยานแห่งชาติมีความหลากหลายทางทิศทางทางของแม่น้ำ ลำห้วย และลำธารที่สำคัญหลายสายไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ รวมถึงห้วยแม่ขมิ้น ห้วยขาแข้ง ห้วยแม่วง ห้วยเกรียงไกร และห้วยแม่พลู

         นอกจากสายน้ำที่ไหลลงมาจากเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ยังมีลำห้วยและลำธารอื่น ๆ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยในเขตอำเภอไทรโยค เช่น ห้วยลิ่นถิ่น เป็นต้น

         ทั้งนี้ทำให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์เป็นสถานที่ที่รวมถึงความหลากหลายของสภาพภูมิประเทศ ทั้งภูเขาหินปูนและหินตะกอน โดยสภาพภูมิประเทศของพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติมีระดับความสูงที่สูงสุดประมาณ 1,100 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 400 เมตร

         พื้นที่น้ำในทะเลสาบเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ มีระดับความสูงสุดประมาณ 180 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้พื้นที่นี้เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์และเต็มไปด้วยชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ พืช หรือแม้แต่ชุมชนของคนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่นี้ในการดำรงชีวิตประจำวัน

         อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ไม่เพียงแต่เป็นที่เก็บถังของน้ำสำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ วิจัย และการศึกษาของชีวิตทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ที่คุ้มค่าที่จะต้องรักษาและอนุรักษ์ไว้สำหรับยุครุ่นหลัง

ลักษณะของภูมิอากาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

         อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ตั้งอยู่ในพื้นที่เงาฝนหรือ "rain shadow," ซึ่งเป็นอาณาเขตที่มีความชื้นน้อยและฝนตกน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ในรัฐหรือในภูมิภาคเดียวกัน สภาพอากาศของที่นี่ก็เป็นผลลัพธ์ของสภาพพื้นที่ดังกล่าว การสังเกตุจะพบว่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีสภาพอากาศที่ร้อนจัดในฤดูร้อน และหนาวจัดในฤดูหนาว โดยมีข้อมูลอุณหภูมิที่ได้รับการจัดเก็บมาในระยะยาวแล้ว อุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายนอาจถึงระดับ 44-45 องศาเซล-เซียส ในขณะที่อุณหภูมิต่ำสุดในเดือนธันวาคมประมาณ 8-9 องศาเซลเซียส

          นอกจากนี้ สภาพอากาศในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ยังมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 27 องศาเซล-เซียส สำหรับฤดูฝน ในพื้นที่นี้มีฝนเริ่มตกจากกลางเดือนเมษายน และจะหยุดฝนในช่วงกลางเดือนตุลาคม จากข้อมูลที่ได้รับ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์อยู่ในระดับของ 1,600 มิลลิเมตรต่อปี

          ข้อมูลนี้ไม่ได้แสดงขึ้นมาเพียงแต่เพื่อสร้างความเข้าใจในสภาพภูมิอากาศเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และดูแลการอนุรักษ์สิ่งประดิษฐ์และสิ่งมีชีวิตในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่คนที่สนใจในการท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือนักวิจัยในด้านสิ่งแวดล้อมควรทราบและได้รับความเข้าใจเป็นอย่างดี

พืชพรรณและสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

          อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์เป็นแหล่งศึกษาวิจัยทางด้านนิเวศวิทยาที่หลากหลาย และหนึ่งในคุณลักษณะที่น่าสนใจของอุทยานนี้คือ การมีสภาพป่าที่หลากหลาย อาทิ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้ง ดังนี้

ป่าเบญจพรรณ

          ป่าเบญจพรรณเป็นประเภทป่าที่พบขึ้นในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ บริเวณค่อนข้างราบถึงเนินเขา สัมผัสได้จากพื้นที่ใกล้ชายฝั่งของอ่างเก็บน้ำ ในบางจุดยังมีไม้ไผ่ขึ้นเป็นกลุ่มที่หนาแน่น และพบมีไม้ยืนต้นอื่นแทรกอยู่ในหมู่ป่าเบญจพรรณ ร่วมกับสัตว์ป่าหลากหลาย อาทิ ลิงกัง หมาจิ้งจอก ช้างป่า และเหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ ฯลฯ

ป่าเต็งรัง

           ป่าเต็งรังก็เป็นอีกหนึ่งประเภทของป่าที่สามารถพบได้ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ประกอบด้วยไม้พันธุ์เต็ง รัง และตะคร้อ พืชพื้นล่างในป่าเต็งรัง ประกอบด้วยเป้งดอย ปรงป่า และไผ่เพ็ก สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ มีกระรอกปลายหางดำ กวางป่า และนกหัวขวานหลากหลาย ฯลฯ

ป่าดิบแล้ง

          ป่าดิบแล้งนั้นพบขึ้นในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์อย่างประปราย โดยมักจะพบในสถานที่ที่อยู่ริมลำธารหรือบริเวณที่มีลมพัดพาฝนมาปะทะภูเขา ไม้พันธุ์ตะเคียนหิน ยมหิน และกระเบากลัก ยังเป็นส่วนหนึ่งของป่าดิบแล้ง สัตว์ป่าที่พบได้รวมถึง ลิงลม เสือโคร่ง และนกเขาเขียว ฯลฯ

          อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ไม่ได้เป็นแค่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งศึกษาวิจัยทางด้านนิเวศวิทยา และการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตที่หลากหลายและมีคุณค่าไปยังเช่นกัน

สัตว์ป่าและสัตว์น้ำ

         บริเวณอ่างเก็บน้ำและลำห้วยในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์เป็นที่อาศัยของหลายชนิดของสัตว์ป่าและสัตว์น้ำ ซึ่งรวมถึงคางคกแคระ, เขียดอ่อง, กบทูด, กบชะง่อนหินเมืองเหนือ, ปาดลายหินเมืองเหนือ, อึ่งแม่หนาว, ปลากราย, ปลากระสูบขีด, ปลากดเหลือง, ปลาชะโด, ปลาเวียน, ปลาปลาเลียหิน และปลากระทิงดำ เป็นต้น

         ถึงแม้ว่าบางพื้นที่ในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์จะถูกราษฎรบุกรุกเพื่อการเกษตร แต่สัตว์ป่าหลายชนิดได้ย้ายหน้าที่อาศัยไปแล้ว ในเมื่อถูกรังแก หรือถูกปลูกพืชเกษตร อย่างไรก็ตาม สัตว์ป่าที่ยังหาได้ในบริเวณริมอ่างเก็บน้ำที่เคยตัดต้นไม้ออกไปหมด ยังคงมีอยู่อย่างหลากหลาย ได้แก่ เก้ง, กระต่ายป่า, อ้น, นกยางกรอกพันธุ์จีน, นกยางโทนใหญ่, นกกระแตแต้แว้ด, นกกระปูดใหญ่, นกอีวาบตั๊กแตน, นกตะขาบทุ่ง, นกปรอดสวน, กิ้งก่าแก้ว, กิ้งก่าหัวแดง, แย้, อึ่งอ่างบ้าน และอึ่งขาดำ เป็นต้น

         การมีสัตว์ป่าและสัตว์น้ำหลายชนิดอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ทำให้อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์เป็นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรค่ายิ่งให้ความสำคัญในการอนุรักษ์และคุ้มครอง เพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ และเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสำหรับการศึกษา การท่องเที่ยว และสิ่งอื่น ๆ ที่ยังไม่ถูกค้นพบและศึกษาอย่างละเอียด

Tag : อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์,อำเภอไทรโยค ,ศรีสวัสดิ์,ทองผาภูมิ,กาญจนบุรี ,จังหวัดกาญจนบุรี ,อำเภอทองผาภูมิ,อุทยานแห่ง,อุทยานแห่งชาติไทรโยค,ตั้งแคมป์,ลานกางเต้นท์

Other tourist attractions in Kanchanaburi Province

วัดถ้ำมังกรทอง

วัดถ้ำมังกรทอง

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
ภายในวัดมีถ้ำเรียกกันว่าถ้ำมังกรทอง เป็นถ้ำขนาดเล็ก มีซอกหินสลับซับซ้อนสวยงาม และภายในถ้ำมีหลวงพ่อใหญ่พระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 100 ปี
น้ำตกเกริงกระเวีย

น้ำตกเกริงกระเวีย

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ริมถนนสายหลัก และร้านอาหารอยู่หลายร้าน สามารถ แวะพักผ่อน รับประทานอาหาร หรือเล่นน้ำได้
วัดวังวิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะ)

วัดวังวิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตมะ)

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นองค์กรศาสนาที่ถูกสร้างขึ้นในลักษณะของศิลปะพม่าที่งดงาม โดยที่วัดเดิมถูกจมน้ำในที่สุดจากการก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม
อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์

Si Sawat district , Kanchanaburi Province
ประกอบด้วยทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตก น้ำพุร้อน ถ้ำ และเกาะแก่งต่างๆ ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีเขตติดต่อกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขื่อนศรีนครินทร์

เขื่อนศรีนครินทร์

Si Sawat district , Kanchanaburi Province
เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้น บนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร นับเป็น เขื่อนแห่งที่ 8 ในจำนวน 17 แห่ง ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างขึ้น
วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ

Tha Muang district , Kanchanaburi Province
เป็นวัดที่มีพระองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี พระเจดีย์ที่มีความสวยงามโดดเด่น สามารถมองเห็นได้จากในระยะไกล ตั้งอยู่บนเนินเขา มีพระบรมสารีริกธาตุภายในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท และหลวงพ่อชินประทานพร
เขาช้างเผือก

เขาช้างเผือก

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
ป็นที่เที่ยวสำหรับคนที่ชอบการเดินป่า ชอบผจญภัย พิชิตยอดเขาสูง ยอดเขาช้างเผือกสูงตระหง่าน รอให้มาพิสูจน์ความกล้ากัน โดยเฉพาะจุดของสันเขาที่หวาดเสียวที่สุดที่เรียกว่า สันคมมีด
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
อยู่ในเขตท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยเขย่งและป่าเขาช้างเผือก มีพืชพรรณธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ และยังมีหมู่บ้านที่ยังอยู่ห่างไกล
ประตูเมืองกาญจนบุรี

ประตูเมืองกาญจนบุรี

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
เป็นประตูเมืองที่ก่อด้วยอิฐและปูน สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในช่วงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ปัจจุบันคงเหลือเฉพาะประตูเมืองด้านหน้าและกำแพงเมืองบางส่วนที่อยู่ติดกัน
สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)

สะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมวิว และสัมผัสอากาศเย็นในช่วงเข้าฤดูหนาว ที่สะพานมอญ ตอนเช้าจะได้สัมผัสไอหมอกที่ปกคลุมบนท้องน้ำและยอดเขา และร่วมใส่บาตรบริเวณสะพานไม้มอญ ตามวิถีชีวิตชาวมอญ
วัดท่าขนุน

วัดท่าขนุน

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
ได้ชื่อตามเมืองด่านท่าขนุน สมัยนั้นการสัญจรส่วนมากไปทางเรือที่ล่องตามลำน้ำแควน้อย จุดที่ตั้งของเมืองด่านท่าขนุนเป็นท่าเรือ มีต้นขนุนอยู่หลายต้น จึงเรียกกันง่าย ๆ ว่า ท่าขนุน
จุดชมวิวป้อมปี่

จุดชมวิวป้อมปี่

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
จุดชมวิวป้อมปี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบและสวยงามของประเทศไทย ป็นพื้นที่ที่มีประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จุดชมวิวนี้ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม
วัดสมเด็จ

วัดสมเด็จ

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
เป็นวัดที่มีศิลปวัฒนธรรมไทยรามัญ (มอญ) และพม่าอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ด้านนอกบริเวณฝั่งตรงข้ามของถนนอีกฟากจะมีศาลาซึ่งมีพระพุทธรูปปางต่างๆ
เจดีย์พุทธคยา

เจดีย์พุทธคยา

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
พระเจดีย์พุทธคยาเป็นสถานที่สักการะที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักอย่างดีในหมู่ผู้นับถือศาสนาพุทธและนักท่องเที่ยว ตั้งอยู่ใกล้กับวัดวังก์วิเวการามที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน
วัดโชคผาสุกิจ

วัดโชคผาสุกิจ

Thong Pha Phum district , Kanchanaburi Province
ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ห่างจากวัดท่าขนุนไปทาง อ.สังขละบุรี ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์โชคผาสุกิจ
ถนนคนเดินสังขละบุรี

ถนนคนเดินสังขละบุรี

Sangkhla Buri district , Kanchanaburi Province
แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งสำหรับผู้ที่ชอบเที่ยว กิน ช้อปปิ้ง เดินเล่นชิลๆ บรรยากาศดีๆ สามารถแวะได้ที่ ถนนคนเดินสังขละบุรี มีเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น
ต้นจามจุรียักษ์หรือต้นก้ามปูยักษ์

ต้นจามจุรียักษ์หรือต้นก้ามปูยักษ์

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
เป็นต้นจามจุรียักษ์ขนาดใหญ่มาก ยืนต้นตระหง่านมายาวนานมากกว่า 100 ปี เป็นความงดงามที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน
วัดปากลำขาแข้ง (โบสถ์สแตนเลส)

วัดปากลำขาแข้ง (โบสถ์สแตนเลส)

Si Sawat district , Kanchanaburi Province
พระพุทธรูปแสตนเลส ฉลุลายไทยวิจิตรงดงาม สร้างสรรค์จากแรงศรัทธาของประชาชน ที่ช่วยกันบริจาคสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
วัดถ้ำพุหว้า

วัดถ้ำพุหว้า

Mueang Kanchanaburi district , Kanchanaburi Province
โอบล้อมด้วยภูเขา ป่าไม้และถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอก หินย้อยสวยงาม บรรยากาศโดยรอบสะอาด ร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมและเจริญศีลภาวนา

Tourist attractions by province

Northern tourist

Northeast tourist

Central tourist

Eastern tourist

Southern tourist