วัดสระเกษ ตั้งอยู่ที่บ้านสระเกษ หมู่ที่ 7 ตำบลไชยภูมิ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเดิมชื่อ "วัดเสาธงหิน" และได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1892 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะเป็นราชธานีของไทย วัดสระเกษ นับเป็นวัดที่มีอายุยืนยาวและเต็มไปด้วยความหมายทางประวัติศาสตร์ ตัววัดเองประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมมากมาย ทั้งพระอุโบสถ เจดีย์ ศาลาการเปรียญ และอนุสรณ์สถานต่างๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความเชื่อทางศาสนาในอดีตของชาวไทย วัดสระเกษ จึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำหรับการปฏิบัติธรรมและการศึกษาธรรมะ แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์ไทยและศิลปะการก่อสร้างแบบไทยโบราณ
ในราวปี พ.ศ. 2128 โดยมีการรุกรานของพม่าต่อกรุงศรีอยุธยา และการต่อสู้ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระเอกาทศรถ พระเจ้าหงสาวดีของพม่าได้สั่งให้เจ้าเชียงใหม่ยกทัพมาโจมตีกรุงศรีอยุธยา การต่อสู้ที่รุนแรงนี้สิ้นสุดลงในเช้าตรู่ของวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา ณ บ้านสระเกษ ที่นี่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระเอกาทศรถได้นำทัพเข้าสู่การต่อสู้และได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ เหล่ากองทัพไทยต่างแสดงความยินดีด้วยการไชโยและร้องรื่นเริง
เหตุการณ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหลังจากการรบ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีพระราชดำริให้พักกองทัพ และทรงได้ทำพิธีสรงน้ำชำระพระวรกาย ล้างพระพักตร์ และสระพระเกศา ณ ที่นั้น ด้วยเหตุนี้ ทำให้ที่นี่ได้รับการเปลี่ยนชื่อจาก "บ้านสระเกษ" เป็น "วัดสระเกษ" ซึ่งถือเป็นการยกย่องและเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะ และความเคารพต่อพระองค์ วัดสระเกษจึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการรบ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ และเป็นที่ระลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในการปกป้องและรักษาอิสรภาพของประเทศไทยจากการรุกรานของพม่าในยุคนั้น
วัดสระเกษ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ทางศาสนาที่มีความสำคัญและสวยงามในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลไชยภูมิ ในอำเภอไชโย โดยเดินทางจากจังหวัดอ่างทองได้โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 334 เป็นระยะทางประมาณ 3.7 กิโลเมตร จากนั้นจะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 32 ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างอ่างทองกับสิงห์บุรี โดยจะเดินทางต่ออีกประมาณ 15 กิโลเมตร วัดสระเกษนี้เป็นที่รู้จักด้วยความงามของสถาปัตยกรรมและศิลปะที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญในภาคกลางของประเทศไทย นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อชื่นชมความงดงามและเพื่อการบูชาทางศาสนา