วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเดิมเรียกว่า "วัดไชยาราม" และ "วัดไชยชนะทาราม" ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางด้านทิศตะวันตกนอกเกาะเมืองอยุธยา ในพื้นที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2173 ระหว่างรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และถูกสถาปนาเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี ณ ที่ดินที่เคยเป็นนิวาสสถานของพระราชชนนี วัดไชยวัฒนารามถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอุทิศถวายแด่พระราชชนนี และเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ที่มีชัยชนะในการรบกับเขมร
วัดไชยวัฒนาราม ยังคงเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญของเมืองอยุธยา ที่สะท้อนถึงศิลปะและสถาปัตยกรรมยุคอยุธยาที่มีความงดงามและประณีต ความโดดเด่นของวัดนี้ไม่เพียงแต่อยู่ที่ประวัติศาสตร์และความเก่าแก่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถาปัตยกรรมอันละเอียดอ่อนและศิลปะการแกะสลักที่สวยงาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความประณีตในการสร้างสรรค์ของช่างไทยในอดีต ทั้งนี้ วัดไชยวัฒนารามยังคงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม โดยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่จัดงานประเพณีต่างๆ ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดกันมายาวนาน
วัดไชยวัฒนาราม" ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของประเทศไทย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมหลักที่เป็นประธานของวัด ได้แก่ กลุ่มปรางค์ 5 องค์ที่ล้อมรอบด้วยระเบียบคดที่เป็นเอกลักษณ์ อาคารทรงปราสาทยอดอยู่กึ่งกลางและมุมของระเบียงคดแต่ละด้าน ซึ่งเรียกว่า "เมรุทิศ - เมรุราย" นับเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทยและขอม ตลอดจนแผนผังในการก่อสร้างโบราณสถานภายในวัดที่แสดงให้เห็นถึงพระราชนิยมของสมเด็จปราสาททอง ผู้ที่รับอิทธิพลความเชื่อในแบบเทวราชาของขอมเข้ามาในรัชสมัยของพระองค์
สถาปัตยกรรมของวัดไชยวัฒนารามไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อทางศาสนาและศิลปะในยุคนั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงการผสานวัฒนธรรมและศิลปะระหว่างอาณาจักรสยามกับขอม โดยมีการออกแบบที่ละเอียดอ่อนและคำนึงถึงความสมดุลทางศิลปะอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งการใช้วัสดุและเทคนิคการก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้วัดไชยวัฒนารามกลายเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสูงสุดในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ การตกแต่งและประติมากรรมที่หลากหลายภายในวัดยังเป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงความเชี่ยวชาญและความสร้างสรรค์ของศิลปินในยุคนั้นอีกด้วย
วัดไชยวัฒนาราม เปิดให้เข้าชมทุก วันตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท